รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่


ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่

เกมคิดราคาอาหารร้าน fast food


ป้ายโฆษณา

ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com
คุณกำลังหาหรืออยากได้อะไรใน karn.tvclick ที่นี่!

 

Blog Me!

เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!

โพสต์โดย amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ พฤหัสบดี, 18 กรกฏาคม 2013
ใน บันทึกลูกรัก

เรื่องเล่าของลูกตอนที่ 38. เมื่อนัตซึเริ่มเข้าเรียน ป. 1

ตอนนี้นัตซึเรียนอยู่ ชั้น ป. 1 ได้ประมาณเกือบเดือนกว่าๆแล้ว  เรื่องเล่าเกี่ยวกับนัตซึเยอะมาก ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องวีรกรรมต่างๆอีกเยอะแยะ  ตอนช่วงที่เรียนซัมเมอร์นัตซึสนิทกับเพื่อนอยู่คนหนึ่ง      แต่พอเปิดเทอมแล้วไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน เธอจึงหงอยเหงาเศร้าซึมน้ำตาตกว่า หนูไม่มีเพื่อนเลย. หนูพยายามทำตัวให้ดี ช่วยเหลือเพื่อน แต่่เพื่อนๆไม่เคยพูดขอบใจหนู.  เวลาเพื่อนวาดรูปสวย หนูก็ชมเพื่อนว่าวาดรูปสวยดี. แต่พอหนูวาดบ้าง เพื่อน. ๆไม่เคยคิดจะชมอะไรหนูเลย ไม่พูดอะไรเลย. หนูไม่รู้จะทำยังไงดี. เลยถามลูกว่า รู้บ้างไหมว่าเพื่อนในห้องชื่ออะไรบ้าง นัตซึบอกว่าไม่รู้ จำไม่ได้ เลยบอกลูกว่า ถ้าอยากมีเพื่อน ต้องรู้จักเปิดใจยิ้มรับกับมิตรภาพ และรู้จักสร้างมิตรภาพ.    เข้าใจเพื่อนๆด้วยว่าเพิ่งมาใหม่เหมือนกันอาจจะยังไม่คุ้นเคยกัน     ให้รู้จักทักทายเพื่อนๆก่อนบ้างถามชื่อเพื่อนบ้าง แนะนำตัวเองกับเพื่อนบ้าง. แล้วการที่เราช่วยเหลือเพื่อนนั้น นัตซึลองตอบตัวเองก่อนว่าต้องการสิ่งใดตอบแทนไหม. ถ้าช่วยด้วยใจจริง อย่าได้คิดรอการตอบแทนไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือสิ่งของก็ตามเพราะมันคือการช่วยแบบหวังผล.        มันทำร้ายเราทำให้เราเสียใจ หากว่าเราไม่ได้ตามที่ได้คาดหวังไว้ เปลี่ยนความคิดใหม่ดีกว่า อย่าเศร้ากับการรอคอยการตอบแทน. ให้ลองดูใหม่. ผ่านไป2 วันจากที่เคยร้องไห้น้ำตาซึมบอกว่าไม่มีใครคุยด้วย ก็เริ่มมีเพื่อน เริ่มจำชื่อเพื่อนได้. มีทั้ง ฟูจิ. ปีใหม่. เกโล. เอม. แซมมี่ และอื่นๆอีกมากมาย จนตอนนี้คุณแม่ก็จำไม่ได้เพราะชื่อเรียกยากๆกันทั้งนั้น. จากที่ไม่ค่อยได้คุย. กลับกลายมาเป็นคุยเก่งมากๆๆๆๆพูดไม่หยุด มีมุขมาคอยเบรค คุณแม่คุณพ่อและพี่เอมิด้วย

 เรื่องเพื่อนนั้นก็ยังไม่จบเพราะที่ห้องนัตซึจะมีจำนวน้ด็กผู้ชายมากกว่า เวลาจัดตำแหน่งที่นั่งไม่ว่าจะสลับยังไงก็ต้องมีเพื่อนผู้ชายมานั่งข้างๆอยู่ดี. บางทีก็บอกว่าเพื่อนแกล้งนู้นแกล้งนี่แต่นัตซึเราก็ไม่ยอม เธอมาเล่าให้ฟังว่า มีอยู่วันหนึ่ง มีเพื่อนผู้ชายคนจีน(ชื่อเป็นภาษาจีน. ขนาดนัตซึยังเรียกชื่อไม่ถูกเลยตอนรู้จักกันใหม่ๆ).  เค้ามาทำกระบอกน้ำของนัตซึตกจากที่วางแล้วไม่ขอโทษ นัตซึบอกว่า ให้ขอโทษด้วย เพื่อนก็ไม่ยอมขอโทษ บอกว่าทำไมต้องขอโทษเค้าไม่ผิดสักหน่อย นัตซึก็บอกกลับว่าเห็นอยู่ว่าทำกระบอกน้ำของเราตกลงมา  เพื่อนก็ไม่ยอมรับอีก. ดิฉันก็เลยถามนัตซึว่า แล้วหนูทำยังไงล่ะ พอดิฉันได้ฟังคำตอบแล้วแทบจะเป็นลม เพราะไม่คิดว่านัตซึสาวน้อยที่เรียบร้อยน่ารักของดิฉันจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ มันเป็นไปไม่ด้าย..นัตซึก็เล่าต่อว่า .. นัตซึบอกว่าให้มาตัดสินแบบลูกผู้ชายคือ เป่ายิ้งฉุบ. ถ้าเด็กคนนั้นแพ้ต้องพูดขอโทษปรากฏว่า เด็กผู้ชายคนนั้นแพ้ แต่ก็ยังไม่ขอโทษ นัตซึเลยบอกว่างั้น คราวนี้ให้มางัดข้อแข่งกันที่โต๊ะเรียน ถ้าแพ้ต้องขอโทษเราด้วย (. ตกลงลูกดิฉันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่นะเนี่ย).  ถามนัตซึว่าสำเร็จไหมเพื่อนยอมขอโทษหรือเปล่า นัตซึบอกว่าหนูงัดข้อแค่ครั้งเดียวก็ชนะแล้วค่ะแต่เค้าไม่ยอมขอโทษ.  เราเลยชกกัน(เฮ้ยชกกันเลยเหรอลูก.  ฟังดูน่ากลัวจัง ลูกเราก็ตัวผอมๆเล็กๆอยู่ด้วย !  ลูก พูดจริงหรือเปล่าเนี่ย). นัตซึบอกว่าเราก็เลยชกๆๆๆกัน(. ทำท่ากำหมัดชกลมประกอบให้ดูอีกต่างหาก). คุณพระช่วย เป็นไปได้ยังไงนี่ใช่นัตซึคนที่เรียบร้อยหรือเปล่าเนี่ย ถามลูกว่าแล้วเพื่อนกับหนูเป็นยังไง นัตซึบอกว่าไม่่เป็นยังไงก็กำลังจะชกๆๆกัน.         อาจารย์เข้าห้องพอดี เลยไม่ได้ทำอะไร. ฟังแล้วน่าตกใจสำหรับดิฉันเพราะนัตซึไม่ใช่คนก้าวร้าวรุนแรงไม่มีเหตุผล.  คราวนี้ถึงเวลาที่ต้องให้ลูกรู้จักวิธีแก้ปัญหาเรื่องการวางตัวและการเข้ากับเพื่อนผู้ชายว่า. เพื่อนผู้ชายมีหลายแบบทั้งสุภาพมีมารยาท และแบบที่อาจจะยังไม่รู้จักการเข้าสังคมดีพอ เราต้องให้โอกาสเพื่อนได้ปรับตัว. และลดความใจร้อนของตัวเองลง การบังคับให้เพื่อนขอโทษโดยที่เค้าอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราโกรธที่เพื่อนทำของเสียหายแล้้วเราไม่ชอบ. เพื่อนคงจะไม่รู้วิธีขอโทษด้วยซ้ำ  เพื่อนคงจะไม่มีเจตนา. และสุดท้ายต้องบอกลูกเราว่า การแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลังเป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง     ถึงแม้ว่านัตซึจะบอกว่าตกลงกันแบบลูกผู้ชาย แต่เธอคงจะลืมไปว่าตัวเองเป็นผู้หญิง.   ถ้าเกิดเพื่อนชกหน้าตาแตก เลือดออกบาดเจ็บ จะทำยังไง. ไม่ต้องทำเป็นแมนแบบเพื่อนหรอกจ้า..  แล้วก็เทศนานัตซึอีกยาวเรื่องการให้อภัยที่น่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด สำหรับการปรับตัวเข้าหากันในช่วงที่เป็นเพื่อนใหม่ เพราะเรายังไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของเพื่อนหรอก.   และขอห้ามไม่ให้มีเรื่องกับเพื่อนผู้ชายอีกไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม ต้องประนีประนอม รักกัน.หลังจากเหตุการณ์วันนั้นก็ถามว่าเป็นยังไงบ้างกับเพื่อนๆในห้อง นัตซึก็บอกว่าโอเค.  แต่เพื่อนคุยกันเก่งมาก(รวมตัวเองด้วยใช่ป่าวล่ะ).  พอเพื่อนชวนคุย หนูก็ต้องคุยตอบด้วยไม่งั้นเดี๋ยวเพื่อนโกรธหนู.  (อ้างเพื่อนหรือเปล่าเนี่ย).  จากนั้นปัญหาเรื่องเพื่อนก็หมดไปในช่วง2 อาทิตย์หลังจากเปิดเทอม

ผ่านไปสักอาทิตย์กว่าๆ นัตซึเพื่อนเริ่มเยอะ ทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกัน(ป.1) และเพื่อนรุ่นพี่ (เพื่อนนัตซึจากเจริญพงศ์มาเรียนก่อน เลยอยู่ป.2).  เพื่อนกลุ่มของพี่เอมิ(ป.4). แล้วไหนจะรุ่นโตๆที่เป็นพี่ชายพี่สาวของเพื่อนนัตซึอีก. พอเลิกเรียนนัตซึวางกระเป๋านักเรียนได้ก็วิ่งไปรวมกลุ่มเล่นทันทีแบบไม่สนใจคุณแม่ด้วยอ่ะ.         วิ่งไล่จับกับเพื่อนๆกลางแดดสนุกสนานกันใหญ่เลยมาเปิดดูสมุดจดการบ้าน กับงานค้างไม่ค่อยมีเลยปล่อยให้เล่น.         . นัตซึติดเล่นกับเพื่อนๆมากขึ้นๆๆในทุกๆวัน จนพอเริ่มเรียนไปได้สักสองสัปดาห์เริ่มมีสอบรายหน่วยบ้างแล้ว คราวนี้เรียกตัวมานั่งทำการบ้านกับอ่านหนังสือสอบชักจะเริ่มยากขึ้น.   .  และแล้วก็ได้เวลาอบรมลูกเรื่องความรับผิดชอบในระดับเด็ก ป.1 ซะแล้ว. เริ่มฝึกให้เพลาๆการติดเพื่อน. ติดเล่น ให้รู้จักอ่านสมุดจดการบ้านและเช็คงานค้างทำให้เสร็จก่อนแล้วจึงไปเล่นได้ แรกๆ มีงอแง น้ำตาซึมเสียดายอยากไปเล่นกับเพื่อนก่อน.      ฝึกไปฝึกมาเริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าอะไรมีความสำคัญหลัก และอะไรมีความสำคัญรอง.         นอกจากนี้ในห้องเรียนเองนัตซึก็ติดคุยเล่นกับเพื่อนในห้อง. (เพราะสอบถามพฤติกรรมการเรียนในห้องกับอาจารย์).  เลยรู้ว่าคุยซะจนทำงานผิดคำสั่งต้องมาย้อนแก้ไขงานให้้ทันในชั่วโมงเรียน(โดนอาจารย์อบรมจนต่อมน้ำตาแตก น้ำตาตกซะงั้น. ).   เลยต้องอบรมเรื่องให้ตั้งใจฟัง อย่าคุยกันเอง.  เพื่อนชวนคุยก็ไม่ต้องสนใจโต้ตอบ. บอกว่าให้ตั้งสติ แก้ไขปรับปรุงตัวใหม่นะ คุยให้น้อยลงฟังให้มากขึ้นตอบคำถามของอาจารย์อยู่เสมอ อย่านิ่งเงียบ.    หลังจากโดนดิฉันอบรมยาวเรื่องสมาธิในห้องเรียน นัตซึก็เริ่มคุยน้อยลงบ้างแต่ก็ยังคุยอยู่ดี. ห้ามยากมากเพราะคุยกันทั้งห้องเลย

ผ่านไปเรื่องการคุยในห้องเรียน เข้าสัปดาห์ที่3 นัตซึเริ่มรู้จีกเพื่อนใหม่มากขึ้น มีเพื่อนพักอยู่คอนโดใกล้ๆกัน ไปมาหาสู่ ชวนมากินมาเล่นกันที่ห้องพักช่วงเย็น บางทีก็ดึกบ้าง หรือคุณพ่อกลับค่ำ ลูกก็จะยังไม่นอน. พอจะเข้านอนก็ดึกดื่นมากเสียแล้ว.  หรือบางทีเอมิจังมีสอบ ก็นั่งสรุปนั่งติวกันจนดึกแล้วนัตซึก็ไม่ยอมนอนก่อน. จะรอหลับพร้อมกันผลปรากฎว่า สิ่งที่เป็นห่วงก็เป็นเรื่องจริง เพราะนัตซึ นั่งหลับที่โรงเรียน   หลับแบบจริงๆจังๆในห้องเรียน อาจารย์ปลุกก็ยังไม่ตื่น. ได้สอบถามจากอาจารย์ประจำวิชาภาษาไทยว่า มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ เพราะอาจารย์ประจำชั้นมาบอกคุณแม่ว่าลูกนอนหลับในห้องเรียนด้วย จริงหรือค่ะ.   อาจารย์เลยบอกว่านัตซึทำงานที่อาจารย์มอบหมายให้เสร็จแล้วก็รอเพื่อนๆในห้อง แล้วนัตซึก็บอกอาจารย์ว่าง่วงนอนมากไม่ไหวแล้วค่ะทำงานเสร็จแล้ว. ขออนุญาตนอนเลยได้ไหม. (ลูกสาวดิฉัน. ช่างกล้าพูดนะเนี่ย).  อาจารย์เห็นเค้าทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วเลยบอกว่านอนได้เลยค่ะ(คิดว่าน่าจะพูดเล่นๆ).  ปรากฎว่านัตซึหลับจริง นอนจริง ฟุบหน้าหลับคู่กับเพื่อนผู้ชายที่นั่งข้างกัน.  แต่พอเปลี่ยนวิชาคาบใหม่อาจารย์ภาษาไทยไปแล้ว อาจารย์ประจำชั้นมาเห็นเข้่า งานนี้ก็งานเข้าแล้วล่ะค่ะ.  อาจารย์ ก็ปลุกแต่นัตซึไม่ยอมตื่น เรียก แล้วให้ลุกไปล้างหน้าจึงตื่น.    โอ้ย อะไรกันนี่คุณลูกสาว. เข้าสัปดาห์ที่สามนี้จึงมีกฎว่า สองทุ่มต้องรีบเข้านอนให้เร็วที่สุด แม้กระทั่งเอมิที่งานเยอะก็ต้องรีบทำรีบอ่านหนังสือให้เสร็จอย่าช้า งานนี้เราต้องช่วยเหลือน้องทำงานกันเป็นทีม รักษาเวลาเข้านอนห้ามชักช้าแล้วน่ะ เพราะเอมิก็รู้ดีว่านัตซึน่ะนอนเก่งขนาดไหน หากนอนไม่พอหงุดหงิดมากๆงอแงด้วยอ่ะงานนี้ ช่วยๆกันหน่อยนะค่ะคุณลูก.   แถมคุณแม่ยังกำชับว่าการนอนหลับในชั่วโมงเรียนถือเป็นการเสียมารยาทไม่ให้เกียรติอาจารย์เลย น่าอายที่สุดของที่สุดเลย ขอร้องว่าอย่าหลับอีก หากง่วงให้ขอไปล้างหน้าซะ ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนอย่าหลับอีก นัตซึน้ำตาซึมตามสไตล์แบบเดิมๆสำนึกผิด. หลังจากนั้นสอบถามดูก็ปรากฎว่านัตซึไม่หลับในห้องแล้ว และถ้าง่วงก็จะขอไปล้างหน้าก่อน. เฮ้อ. ผ่านไปอีกหนึ่งเรื่อง

ช่วงเดือนแรกเริ่มมีสอบรายหน่วย นัตซึก็ทำคะแนนได้ดี (คงเพราะเนื้อหายังง่ายอยู่ )แต่พอผ่านเข้าเดือนที่ สอง. วิชารายหน่วยเริ่มมีต้องเข้าใจและจำมากขึ้น บางทีก็ฟังคุณแม่สรุปเนื้อหาถามตอบกันบ้าง.      บางทีก็อยากจะไปเล่นท่าเดียวเลย. ยังดีที่นัตซึนั้นเข้าใจอะไรง่าย(เนื้อหาที่จะสอบ)เลยไม่ต้องพูดมาก. สรุปๆ10 นาทีีก็ต้องปล่อยไปเล่นแล้ว. เฮ้อ รักการเล่นจริง..จริ้ง..คุณลูกเอ้ย..แล้วเมื่อไหร่จะโตสักที รอดูอยู่นะลูกจ๋า

โหวตให้คะแนนบทความนี้
คำค้นหา: ไม่ระบุคำค้นหา
amijung (657 คะแนนที่ได้รับ)
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
เหรียญรางวัล:

ความคิดเห็น

araban
araban
araban ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
araban ศุกร์, 27 มีนาคม 2015

test

google
google

araban
araban
araban ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
araban ศุกร์, 27 มีนาคม 2015
กรุณา เข้าระบบ หากต้องการแสดงความคิดเห็นของคุณ