รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่
ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่
เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!
บันทึกนี้เป็นบันทึกที่คุณแม่ต้องบันทึกเอาไว้เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจอย่างมากสำหรับตัวคุณแม่เอง เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่ทั้งเอมิซึ่งอยู่ป. 4 กับน้องนัตซึที่อยู่ป.1นั้นสอบกลางภาคในวันที่24-26 ก.ค. นี้พร้อมกัน ของเอมินั้นสอบวันละ4-6 วิชา. เรียกว่าสอบตั้งแต่เช้าถึงเย็น มีบางคาบที่เว้นว่างให้พักเตรียมอ่านหนังสือสอบวิชาถัดไป ให้พอได้หายใจนิดหน่อย. ส่วนนัตซึนั้นวันแรกสอบ 2 วิชาวันที่สองสอบ 4 วิชา วันสุดท้ายสอบอีก 2 วิชา. เป็นการสอบเก็บคะแนนกลางภาคล้วนๆไม่ใช่รวมสอบหน่วยย่อยที่มีมาแต่ก่อนหน้านี้. ได้รับตารางสอบก่อนสอบจริงอยู่ประมาณสิบกว่าวัน. ได้มีโอกาสรู้เนื้อหาที่จะสอบก่อนบ้างแล้วบางวิชา.
ของเอมิ เนื้อหาวิชา ป. 4 แต่ละวิชานั้นเริ่มละเอียด และมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แนวข้อสอบวิทย์เรื่องพืชกับสัตว์ มีแยกสอบหน่วยให้สอบด้วยข้อเขียนทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างละเอียดและยาก ต้องอ่าน จำ และเข้าใจ
วิชาวิทยาศาสตร์. ในเรื่องพืช ออกเกี่ยวกับ วงจรพืช พืชใบเลี้ยงเดี่ยว ใบเลี้ยงคู่ เอมิบอกว่าออกยาก (18/25) ส่วนเรื่องสัตว์ เอมิอ่านเองและทำ mind map เอง นั่งเปิดไฟอ่านหนังสือสอบอยู่คนเดียว ส่วนคุณแม่กับนัตซึต้องขอนอนก่อนแล้วเพราะไม่ไหว งานนี้เอมิเต็มที่ประมาณว่าขอแก้ตัวจากครั้งที่เคยสอบเรื่องพืชไป ก็เลยทำได้ดี. ข้อสอบเป็นข้อเขียนทั้งหมด (20/20).
ตอนแรกเอมิบอกว่าสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังมีตั้ง 8 กลุ่มจะจำมาเขียนตอบได้ยังไง. เลยมีเทคนิคการจำว่า สัตว์ในกลุ่มนี้เรียกจำสั้นๆว่า
พรุน กลวง กลม แบน ปล้อง ข้อ นิ่ม ขรุขระ ซึ่งมาจาก
1. สัตว์จำพวกลำตัวมีรูพรุนเช่น ฟองน้ำ
2. มีลำตัวกลวง
3. หนอนตัวกลม
4.หนอนตัวแบน
5. ตัวเป็นปล้อง
6. ขาเป็นข้อ
7.ลำตัวอ่อนนิ่ม
8. ลำตัวผิวขรุขระเป็นหนาม
แล้วส่วนที่เหลือก็จำลักษณะเด่นต่างๆที่แตกต่างกัน
ส่วนสัตว์มีกระดูกสันหลัง มี 5 ประเภท ใช้จำว่า. ปลา ครึ่ง เลื้อย ปีก นม. ซึ่งคือ
1. สัตว์ประเภท ปลา
2. สัตว์ครึ่งน้ำครึ่งบก
3. สัตว์เลื้อยคลาน
4. สัตว์ปีก
5. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม
ส่วนรายละเอียดความแตกต่างของแต่ละประเภทใช้ทำเป็นตาราง เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างและความเหมือน. จะทำให้มองเห็นภาพรวมและจำได้ง่ายขึ้น และเอมิมักจะตั้งข้อสงสัยและหาคำตอบให้กับตัวเอง. ระหว่างอ่านไปด้วยเลยเข้าใจมากขึ้น ซึ่งเอมิขออ่านทวนเองดิฉันเลยลองปล่อยดู คิดว่าเป็นเรื่องที่เอมิสนใจ ชอบ และเข้าใจได้ดี
ส่วนปลายภาคเอมิบอกว่าออกเป็นตัวเลือก ทำได้ ง่าย(จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้). คะแนนยังไม่ออกเลยไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง
วิชา ภาษาญี่ปุ่น เป็นวิชาที่เพิ่งได้เริ่มเรียน เอมิมีความตั้งใจมากในเรื่องการเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นให้สวยตามมาตราฐานของเซนเซที่สอน เอมิจังซึ่งเอมิจังบอกว่า อาจารย์คนญี่ปุ่นของเอมิเขียนตัวอักษรสวยมาก และอาจารย์ก็เข้มงวดเรื่องการเขียนมากทั้งสัดส่วน. น้ำหนักของเส้นแบบหยุด. แบบปล่อย. แบบตวัด. การเขียนลำดับก่อนหลังของเส้นในแต่ละตัวอักษรต้องเป๊ะ. เอมิเคยสอบเขียนไปแล้วไม่ค่อยสวย หรือเวลาทำการบ้านมักจะต้องแก้เรื่องสัดส่วนหรือตำแหน่งของการลงเส้นต้องถูกตำแหน่ง ไม่สั้น ไม่ยาว. ไม่เบี้ยว ไม่ผิดองศามุมของตัวอักษร(ละเอียดจริง..จริ้ง). เรียกได้ว่าถ้าไม่โอเค เส้นไหนก็โดนหักครึ่งคะแนนง่ายๆเลย. เอมิเลยต้องตั้งใจมากในการเขียนแต่ละตัว เรียกว่า แม้จะจำตัวอักษรได้ว่า ตัวไหนเป็นตัวไหนบ้างก็ไม่พอ ต้องเขียนให้งามถูกต้องเป๊ะด้วยถึงจะได้คะแนน. งานนี้เครียดเลยเอมิใช้ความ พยายามฝึกเขียนแล้วเขียนอีก จนกว่าจะถูกต้องตามแบบ จนกว่าจะพอใจ
ทั้งยังต้องท่องคำศัพท์ญี่ปุ่นเตรียมสอบวรรค. อะ- โนะ . สอบฟังและพูด คำสั่งต่างๆที่ใช้ในห้องเรียน. การทักทาย การขออนุญาตต่างๆ ซึ่งเอมิซ้อมพูดอยู่บ่อยๆจนคล่องเลยพอทำได้เอมิบอกว่าสอบกลางภาคนี้เอมิได้ (100/100). ดีใจมาก
ประวัติศาสตร์เอมิบอกว่ายังไม่ยาก ข้อสอบให้เขียนเติม สอบรายหน่วยได้30/30. ข้อสอบกลางภาคคล้ายๆรายหน่วย ทำได้ แต่คะแนนยังไม่ออกเลย
สังคม. วิชานี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐศาสตร์. เศรษฐกิจ. ระบบเศรษฐกิจ การผลิต. การบริโภค ทั้งปัจจัยและความรับผิดชอบของผู้ผลิตและผู้บริโภค. เรื่อง. เงิน. ภาษี. ธนาคาร. ระบบสินเชื่อ สหกรณ์. เนื่อหาเยอะ ยาก ยังซับซ้อน เข้าใจยาก เด็กยังไม่ค่อยมีโอกาสหรือประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมากนัก ยังไกลตัวในบางเรื่องอยู่. ใช้ความจำและเข้าใจพอควร. สอบหน่วยไปแล้วได้(26/30). ส่วนกลางภาคจะได้เท่าไหร่น้อ.. อันนี้ไม่แน่ใจเล้ยเพราะเพิ่งจะอ่านก่อนสอบแค่วันเดียวแถมอ่านก่อนนอนด้วย แล้วแต่ดวงล่ะกันลูก
ภาษาไทย. เอมิพอจะรู้เรื่องบ้างเกี่ยวกับหลักไตรยางค์. อักษรนำ. ส่วนเรื่องการเขียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการแนะนำตัวและการโฆษณา. ส่วนวรรณคดีลำนำเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวกับสุดสาคร. คำศัพท์บทสุดสาครยากมาก(เป็นคำที่ต้องรู้ความหมาย ต้องแปล. อย่างพวก. ทะเล น้ำ. คำศัพท์ที่แปลแล้วความหมายเดียวกันมีเยอะมากต้องจำเอาเอง). ภาษาไทยเอมิใช้เวลาในการทวนน้อยมาก แค่คร่าวๆ เพราะคิดว่าน่าจะพอทำได้บ้าง (. 31/40).
ภาษาอังกฤษ แบ่งเป็น1. fund.eng. ที่teacher. สอน ออกพวกคำศัพท์แต่ละบท., Past. tense, . การอ่านบทความสั้นๆแล้วตอบคำถาม. , เขียนนิทานเอง 1 เรื่อง ใช้คำศัพท์ไม่น้อยกว่า 40 คำ. และต้องเป็น past. tense , ออกพวกรายชื่อประเทศต่างๆและการเรียกสัญชาติ
2. Structure. Eng. เป็นพวกหลักไวยกรณ์ต่างๆที่อาจารย์ไทยเป็นคนสอน ออกพวก ประเทศสัญชาติ ,การเปรียบเทียบขั้นกว่า. ขั้นสุด. ,กิริยา 3 ช่อง,คำศัพท์
3. R.C. สอบการอ่านหนังสืออ่านนอกเวลาเรื่อง robin hood. เล่มของOxford ให้เวลาไปอ่านมาแล้วเอาหนังสือเข้าไปตอบคำถามของอาจารย์ด้วยในห้องสอบ. เอมิบอกว่าพอตอบได้ไม่ค่อยยาก. แต่ก่อนหน้านี้ที่คุณแม่ต้องช่วยกันอ่านติวกับคุณลูก ต้องฝึกแปลประโยคและคำศัพท์มาก่อนก็เล่นเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกันนะเพราะกว่าจะอ่านจบทั้งเล่ม
วิชาภาษาอังกฤษก็นับว่าเป็นวิชาที่ดึงเอาเวลาในการทวนสอบของเอมิจังเยอะมาก. ทั้งจำคำศัพท์ หลักไวยกรณ์ การผันกิริยา 3ช่อง การแต่งนิทานเอง. และการอ่านบทความสั้นๆเอง (. โอ้ย ลูกอิชั้นจะทำได้ไหมเนี่ย. จะอ่านภาษาอังกฤษเอง แปลใจความเอง เขียนประโยคเป็นเรื่องราวเอง. จะไหวไหมเนี่ย. คุณแม่คุณลูกชักจะเครียดแฮะ). แต่มันก็ต้องลุยแล้วล่ะค่ะ ใช้เวลาทวนแล้วทวนอีก จำได้บ้างไม่ได้บ้างก็ทวนๆกันไป. คะแนนยังไม่ออก ต้องลุ้นกันต่อไป
วิชา สุขศึกษา. ข้อสอบออกพวกวัยต่างๆและพัฒนาการ เน้นวัยแรกรุ่น. ระบบในร่างกายสอบมี ระบบกระดูกและข้อ. ระบบกล้ามเนืื้อ. เอมิบอกว่าอาจารย์ออกข้อสอบกลางภาคเป็นข้อเขียนก็พอจะจำเนื้อหาและเขียนตอบได้. ไม่ค่อยยาก. รอดูผลสอบเหมือนกันว่าจะโม้หรือเปล่า
พละศึกษา ออกเกี่ยวกับกีฬาประเภทลู่. ประเภทลาน. ประวัติกรีฑา บอกว่าพอทำได้ คะแนนก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
เทคโนโลยีสารสนเทศ สอบปฏิบัติ จะให้ทำงานโดยใช้โปรแกรมตามที่อาจารย์กำหนด อันนี้เรียกได้ว่าปราบเซียนเลย เพราะว่าต้องฟังและปฏิบัติเอง ฝีมือตัวเองล้วนๆใครๆก็มาช่วยไม่ได้ต้องจัดการให้เสร็จ ทำงานให้ทัน ไม่งั้นหลุดไปก็ลำบากต้องตามงานวุ่นวาย. แถมเครื่องคอมที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยดีด้วย เสียบ่อยต้องรีบเซฟงานตัวเองเก็บไว้ก่อนห้ามพลาด
วิชาศิลปะ. เป็นเรื่องของชิ้นงานที่ต้องวาดระบายสีตามงานให้ครบทุกชิ้นตามกำหนดส่งอันนี้ไม่ค่อยห่วงเอมิเพราะโดยปกติจะชอบวาดรูประบายสีอยู่แล้ว เมื่อใจรักและสนใจเลยทำได้ดีคะแนนการวาดก็จะได้4/4 มาอยู่เสมอๆ
นาฏศิลป์ ที่เอมิเรียนเป็น การเรียนเพลง แม่ศรียอดสร้อย ซึ่งต้องสอบท่ารำ. เอมิก็พอรำได้เลยผ่าน ไม่โดนเรียกสอบซ้ำ
คณิตศาสตร์ เป็นวิชาที่เอมิแทบไม่ได้ทวนเลยบอกได้คำเดียวว่า วิชานี้ขึ้นอยู่กับสติ และความนิ่ง ความรอบคอบ ของเอมิล้วนๆ ผลปรากฎว่าสอบได้แค่ผ่านครึ่ง. ดิฉันเองค่อนข้างจะตกใจและประหลาดใจมากที่คะแนนคณิตศาสตร์น้อยมากจนชักน่าจะเป็นห่วงเพราะว่าลูกประมาท ง่วง นอนไม่พอ. เลขที่นั่งสอบอยู่ไกลกว่าจะได้ข้อสอบช้ากว่าเพื่อน. เลขคูณออกหลายหลักมาก. เห็นลูกบอกว่าคูณกันแบบหลักหมื่นคูณหลักหมื่น. คูณกันจนเบลอๆหรือมันเป็นเพราะอะไร. คุณแม่ก็ยังเดาไม่ออกว่าสาเหตุมันคืออะไร. คิดว่ามาถึงขั้นนี้ประถม 4 แล้ว คงจะต้องเป็นหน้าที่ที่เอมิจะต้องฝึกฝนทักษะการคำนวณให้แม่นยำขึ้น ต้องรอบคอบขึ้น (. แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าสอบหน่วยที่ผ่านมาก็คะแนนดีนี่นา24/27). คงจะเพราะลูกไม่รอบคอบจริงๆ พลาดไปแล้ว. ลูกเสียใจแต่บอกว่าพยายามทำเต็มที่แล้วไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร. ก็คงต้องช่างมันเพราะมันผ่านไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้. ต้องเพิ่มความขยันแล้วพยายามทำให้ดีในการสอบครั้งต่อๆไป ลองดูใหม่อีกทีคราวหน้า ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนของความประมาทที่ไม่ได้ฝึกทบทวนการคูณให้ดี ได้แต่บอกลูกว่า ไม่เป็นไรหรอก ยังมีสอบคราวหน้าอีกต้องสู้นะ สุดท้ายก็ปลอบใจตัวเองว่าลูกทำดีตั้งใจทำดีที่สุดแล้ว ผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับตามนั้น
สำหรับนัตซึนั้นต้องยอมรับว่า. แทบไม่มีเวลาที่จะได้ติวให้ลูกคนนี้เต็มที่เท่าเอมิ เพราะเนื้อหายังน้อย สั้น ไม่ซับซ้อน ขึ้นอยู่กับความสามารถในการฟัง อ่านและตอบคำถามของนัตซึในห้องสอบล้วนๆเลย. ทุกวิชาที่ติวให้นัตซึนั้นก็อ่านเอาจากในหนังสือที่เรียนมาไม่ได้หาอะไรมาเพิ่มเติมให้ ส่วนใหญ่ก็สอบได้คะแนนดีพอใช้ ที่นัตซึไม่ค่อยพอใจก็จะเป็นคณิตที่ได้29/30. เพราะเค้าคิดว่าเค้าน่าจะทำได้(ประมาณว่าอารมณ์แบบเด็กๆว่าอยากได้คะแนนเต็มบ้าง). เพราะสอบทีไรก็มีเต็มบ้างไม่เต็มบ้าง อยากจะเต็มตลอดคงจะเป็นไปไม่ได้
นี่ขนาดวิชาที่นัตซึสอบยังไม่ยากใช้เวลาในการทวนแต่ละวิชาไม่นานนัก ก็ทำเอาคุณแม่เหนื่อยไปเหมือนกัน เพราะต้องสลับกันติวให้ลูกแต่ละคน เวลาที่ติวให้เอมิ นัตซึก็อ่านการ์ตูนรอคุณแม่ไปก่อน ประมาณว่าไม่อยากอ่านคนเดียว ต้องให้คุณแม่อ่านติวไปด้วยกัน. ส่วนเวลาที่คุณแม่ติวให้นัตซึ เอมิก็แอบพักเอาการ์ตูนมานั่งอ่านเหมือนกัน เรียกว่า ว่างปุ๊บก็ขอพักเลย. แต่คุณแม่นี่ซิค่ะ พูดซะจนคอแห้งกว่าจะได้พัก. สงสัยว่าต้องวางแผนการเรียน การอ่าน การทบทวนใหม่แล้ว. เพื่อที่เอมิจะได้หัดอ่านและจดจำเนื้อหาเองได้มากขึ้น จะได้ฝึกให้รู้จักรับผิดชอบการเรียนของตัวเอง คิดว่าน่าจะถึงเวลาที่จะต้องเริ่มปล่อยให้ลุยอ่านหนังสือเองทั้งหมดแล้ว. เคยนึกสงสัยว่าผู้ปกครองบางท่านที่มีลูกเรียนและต้องสอบพร้อมกันหลายคนแล้วจะดูแลเรื่องการเรียน การอ่านทบทวนก่อนสอบของลูกอย่างไรบ้าง. คงจะเหนื่อยน่าดู. ตอนนี้ได้มาเจอกับเหตุการณ์นี้เองแล้ว ซึ้งจริงๆเล้ย..ว่า. มันเหนื่อย และลุ้นคะแนนสอบลูกมากแค่ไหน หวังว่าสอบครั้งหน้าจะไม่พลาดอย่างมหันต์เหมือนครั้งนี้อีกแล้วนะ
สำหรับคนอื่นที่ได้คะแนนดีมากมายเราต้องขอชื่นชมจริงๆ. แต่สำหรับในสถานการณ์ที่ลูกเราสองคนต้องเตรียมตัวสอบพร้อมกันมันก็ยังเป็นเรื่องท้าทายว่า. ดิฉันจะจัดการให้มันลงตัวได้อย่างไรโดยให้ผลที่ออกมาสวยงามและขาดวิ่นให้น้อยที่สุด ต้องรอดูกันต่อไป
www.karn.tv สื่อการสอนระดับ อนุบาล - ประถมต้น (ช่วงชั้นที่ 1) รวมแบบฝึกหัด ตัวอย่างข้อสอบ กิจกรรมเพิ่มทักษะ ข้อมูลการศึกษา โรงเรียน |