โพสต์โดย amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ พุธ, 17 ตุลาคม 2012
ใน บันทึกลูกรัก
เรื่องคุยของลูกตอนที่18. ไปทะเลกันดีกว่า
สัปดาห์ที่แล้วไปราชบุรี. สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เราไปเที่ยวที่พัทยากันสนุกมากๆเพราะว่าไปพักที่โรงแรมเซนทารา แกรนด์ มิราจ บิช โฮเต็ล. ที่แถวนาเกลือ พัทยา ตอนแรกดูจากเว็บไซต์คิดว่า สวนน้ำคงจะประมาณคล้าย ๆกับสวนสยามหรือเปล่าน้า. จะมีอะไรให้เที่ยวให้เล่น หรือมีกิจกรรมอะไรบ้าง เพราะไม่เคยไปพักแบบที่บอกว่ามีสวนน้ำด้วย. ปรากฎว่าจองโรงแรมไว้สองคืนพอจะกลับลูกอยากอยู่ต่อเป็นคืนที่สาม (แต่ว่าไม่ได้เพราะห้องเต็ม มีคนมารอเข้าพักต่อแล้ว). เพราะว่าที่นี่สวย. สนุก สวนน้ำอลังการงานสร้างมากๆ(คำนี้จากปากของยูริจังเลย). ห้องพักก็ดีด้วย ไม่ผิดหวังเลย แถมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายก็คล่องแคล่วเป็นมืออาชีพมากๆด้วย การบริการทุกอย่างรวดเร็วดี ไม่รอนานทั้งๆที่แขกที่มาพักเยอะมาก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ. มาเที่ยวนี้สองสาวของเรา. เริ่มตาโตเห็นความสำคัญของการใช้ภาษาขึ้นมาทันทีเลย เพราะชาวต่างชาติเยอะจริงๆทั้งคนจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป อังกฤษ อเมริกา. งานนี้เลยเดากันใหญ่ว่าภาษาที่ได้ยินเป็นของชาติไหนกันบ้าง. ถ้าเป็นภาษาญี่ปุ่น. เอมิกับยูริก็จะพยายามให้ดิฉันพูดทักทายด้วย. แต่เท่าที่ดูน่าจะเป็นคนจีนกับเกาหลีมาเที่ยวเยอะมากกว่่า. ตอนที่สองสาวไปเล่นสวนน้ำนั่งเล่นทรายกันก็เลยได้รู้จักกับครอบครัวคนเกาหลีที่เพิ่งมาเที่ยวเมืองไทยครั้งแรก. มาเที่ยวหนึ่งอาทิตย์บอกว่าชอบเมืองไทยมากเลย สนุก ดิฉันได้คุยไปด้วย(ภาษาอังกฤษนะค่ะ ภาษาเกาหลีพูดไม่เป็นถึงแม้ว่าจะชอบดูละครเกาหลีเหมือนกันก็ตามที)ตาก็มองผิวขาวสวยของลูกสาวลูกชายของเขาด้วย น่าอิจฉาอ่ะ. เด็กอะไรน่ารัก ผิวขาวเนียน ดี้...ดี ดูนุ่มน่าสัมผัสอ่ะ ว่าแล้วก็หันกลับมามองหน้าลูกสาวตัวเองทั้งสองคน ตอนนี้หน้าดำแดดแบบอย่างที่เรียกได้ว่าดำมาก ผ่านไปปีหนึ่งจะขาวขึ้นไหมเนี่ย. เพราะปิดเทอมคราวนี้โดนแดดกันเยอะมากท่าจะไม่รอดแฮะ. เห็นแล้วมันอดเปรียบเทียบไม่ได้จริงๆเล้ย...ถึงแม้ว่ามันจะมีคำแนะนำจากกูรูทั้งหลายว่าเราไม่ควรจะเอาลูกเราไปเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่นก็เถอะ. งานนี้แตกต่างอย่างเห็นๆเลยอ่ะ
พูดถึงเรื่องภาษาต่างประเทศ ตอนนี้มันสำคัญมากๆเลยนะค่ะ เพราะถ้าเราไม่เรียนภาษาพูด ดิฉันคิดว่าอีกหน่อยเราก็คงจะต้องเรียนภาษาใบ้กันแล้วล่ะค่ะ เพราะตอนที่ดิฉันอยู่ในลิฟท์ของโรงแรม. พอลิฟท์เปิดก็ มีผู้ชายอายุเยอะนิดหนึ่ง พูดภาษาอะไรก็ไม่รู้ฟังไม่ออก เอ..จะว่าภาษาอังกฤษ ก็ฟังไม่รู้ว่าถามอะไร แต่ดูจากมือที่ทำเหมือนจะถามว่าลิฟท์ขึ้นใช่ไหม จากท่าที่พยายามชูนิ้วชี้ขึ้นเพดาน. เลยคิดว่าใช่ ดิฉันก็เลยพยักหน้าไปว่าใช่สรุปว่า. เข้าใจกันแล้ว ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ. สรุปว่า อย่างน้อยก็โชคดีที่มีภาษาใบ้ แล้วถ้าไม่มีมือมาช่วยใบ้ล่ะ. คราวนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วล่ะ
เดี๋ยวเอมิจังก็ต้องเลือกเรียนภาษาที่สามที่สาธิตเกษตร พหุภาษา ในตอนขึ้นป.4ว่าจะเรียนภาษาจีนหรือญี่ปุ่น. เอมิยังตัดสินใจเลือกไม่ได้เลยว่าอันไหนจะดีและเหมาะกับตัวเองมากกว่า เพราะดิฉันอยากให้เรียนจีน แต่ที่บ้านมีหนังสือเรียน ตำรา การ์ตูน นิทาน ซีดี ที่ดิฉันได้มาจากญี่ปุ่น บางเล่มเพื่อนซื้อมาให้บ้าง ก็อยากรู้ภาษาญี่ปุ่นจะได้เข้าใจทั้งเวลาที่อ่านนิทานญี่ปุ่นกับแอบฟังเวลาที่ดิฉันคุยภาษาญี่ปุ่น(แบบงูๆปลาๆ)กับเพืื่อนชาวญี่ปุ่น หรือเวลาเจอคนญี่ปุ่นบางครั้งก็ทักทายกันบ้าง เลยทำให้เอมิเลือกไม่ถูกเลยเพราะจีนก็อยากเรียน ญี่ปุ่นก็อยากคุยเป็น งานนี้เอมิคงจะอยากแยกร่างออกเป็นหลายๆคนเลยล่ะ เพราะอยากคุยไปทั่ว กิจกรรมสนุกๆที่โรงเรียนก็เยอะด้วยอ่ะ อยากร่วมกิจกรรมหมดเลย (ไม่ค่อยงกเลยเนอะ ลูกชั้น). ต้องรอดูกันต่อไป
เป็นเรื่องน่าแปลกมาก. เวลาที่ดิฉันไปเที่ยวหรือไปทำธุระอะไรที่ข้างนอกบ้านมักจะเจอคนรู้จักหรือว่าได้เพื่อนใหม่. แต่พอคุยถามไปถามมาก็กลายเป็นว่ามีคนรู้จักกันหรือว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนกันอีกที. สงสัยว่าเราจะแก่แล้วจริงๆเลยมีคนให้รู้จักกันไปมาอยู่เยอะแยะไปทั่วเลย เมื่อปิดเทอมคราวที่แล้ว ครอบครัวดิฉันพากันไปพักที่ดุสิตรีสอร์ท เกาะช้าง. ก็ไปเจอคุณหมอที่เคยทำงานที่ร.พ.(สมัยยังสาวๆ อยู่). พอ มาที่เซ็นทารา. คราวนี้ก็เจอครอบครัวคุณหมออีกท่านพาลูกๆมาเที่ยวอีกเหมือนกัน. แถมเจอเพื่อนร่วมงานคุณพ่อมาพักอยู่ห้องใกล้ๆกันอีก ช่างบังเอิญอีกแท้ๆเล้ย...
ต้องยอมรับว่าโรงแรมนี้บรรยากาศดีมากๆ อลังการงานสร้างอย่างที่ยูริลูกสาวคนเล็กบอกจริงๆ เพราะตั้งแต่โถงต้อนรับที่ใกล้กับล็อบบี้ สวย ใหญ่โต สไตล์การจัดเหมือนพวกโรงแรมสไตล์บาหลีเลย เน้นการตกแต่งแบบธรรมชาติด้วยไม้ ไม้ไผ่. กิ่งไม้. ตอไม้เก่า ๆ หินสวย ก้อนใหญ่ๆ. รอบๆโรงแรมมีน้ำตกจำลองอยู่หลายที่มากๆ. และมีการจัดโซนต่างๆที่ลงตัวมากๆ. ยูริอยากพักที่นี่อยากเล่นน้ำต่อไม่อยากกลับบ้านเลย ส่วนของสวนน้ำมีแบ่งเป็นสระตื้น. สระลึก.บริเวณสำหรับให้กระโดดน้ำได้(ลึกมาก3.8เมตร). สระที่ใกล้ชายหาดให้เล่นทรายได้ด้วย. สไลด์เดอร์สำหรับเด็กๆ เล็ก. ๆ.และ สำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กโต.อีกต่างหาก. ของเอมิกับยูริชอบเล่นของเด็กโต. ขนาดดิฉันเองยังไม่กล้าเล่นเลยเพราะไม่ชอบแบบว่าหวาดเสียว. แต่ยูริซิคะ. มีห่วงยางติดตัวแค่อันเดียวก็วิ่งไปต่อแถวขอสไลด์ลงน้ำแล้ว. ถามว่าไม่กลัวเหรอ บอกว่าไม่กลัว. มันตื่นเต้นดีเหมือนหัวใจมันบีบแรงๆแทบจะกระเด็นออกมา(นั่นดูซิค่ะ คำพูดคำจาของเด็ก. 5 ขวบ ช่างพูดจริง...จริ้งเลย)ประมาณว่าคงจะหวาดเสียวดีล่ะมั้งค่ะ. แต่สำหรับดิฉันขอบอกว่าอะไรที่เกี่ยวกับความเร็วหรือโลดโผน เห็นท่าจะไม่ถูกกันเลยได้แต่ยืนมองคอยดูแลเด็กๆเล่นน้ำกัน. นอกจากนั้นก็ยังมีโซนที่ทำเป็นทางน้ำไหลให้ค่อยๆล่องห่วงยางอันใหญ่ให้ไหลไปตามน้ำด้วยก็สนุกดีสำหรับคนที่ชอบเล่นน้ำได้ทั้งวัน ไม่น่าพลาด. สำหรับลูกสาวมาค้างสองคืนก็ยังบอกว่าไม่พอเลยค่ะ. คราวหน้าต้องมาพักอีกให้ได้เลย.
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ดิฉันแนะนำว่าหาทานข้างนอกก็น่าจะประหยัดและตรงใจเรามากกว่าเพราะร้านอาหารเยอะมากๆๆ ถ้าทานอาหารเช้าในโรงแรมคิดประมาณ880 บาทต่อคนซึ่งถือว่าแพงมากสำหรับครอบครัวดิฉันเพราะกินยังไงก็ไม่เกินกระเพาะเล็กๆไปได้เลยต้องขอออกมาหาทานข้างนอกเองดีกว่า สะดวกกว่าด้วยเพราะจะนั่งกินเมื่อไหร่ นานเท่าไหนก็ได้เลยไม่เร่งรีบ
เรื่องการเดินทางก็สะดวกไม่ยากเลย คนแถวนั้นรู้จักกันดีหมดเลย ขับรถหลงยังไงก็ไปถึงอยู่ดี. ปีหน้าค่อยหาเวลาไปเที่ยวกันใหม่อีกที คราวนี้จะเจอคนรู้จักกันอีกไหมเนี่ย.
คำค้นหา: ไม่ระบุคำค้นหา