โพสต์โดย amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ อาทิตย์, 16 กันยายน 2012
ใน บันทึกลูกรัก
เรื่องคุยของลูกตอนที่15 เอมิจังไปสอบเพชรยอดมงกุฎภาษาไทย ป. ๓.และ ยูริประกวดเต้นกับทีมเจริญพงศ์
หายเงียบไปนานไม่ได้เข้ามาคุยเลยทั้งๆที่มีกิจกรรมตลอดแต่ไม่มีเวลาเขียนเลย คราวนี้คงต้องขอบันทึกกันหน่อยเพราะโอกาสดีๆแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆ เมื่อช่วงวันที่ 8 กันยายน 2555 เอมิจังกับเพื่อนร่วมชั้นป. 3 อีก 2 คน ได้เป็นตัวแทนไปแข่งขันโครงการเพชรยอดมงกุฎภาษาไทย ที่ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย มีเวลาที่จะเตรียมตัวก่อนสอบประมาณ 2 อาทิตย์. ตัวเองคิดว่าไม่มีเวลาพอแน่นอนสำหรับการเตรียมตัวที่ดี(ถ้าหวังจะทำคะแนนสูง ๆ). เพราะข้อสอบของป. 3 มีเนื้อหากว้างมากๆ ไปถึงคำราชาศัพท์. คำที่ใช้ในวรรณคดี. . คำสุภาพอื่นๆ. และลักษณะประโยคที่มีเรื่องละเอียดของพวกคำนาม สันธาน บุพบท วิเศษณ์ และความรู้ทั่วไปแบบที่ต้องรู้ละเอียดมาบ้าง ดูจากข้อสอบเก่าๆที่ได้มาจากคุณตาจ่อยแล้ว ก็คิดว่าลูกคงจะทำได้ในระดับหนึ่งที่ลูกเคยเรียน เพราะลองให้ทำดู บางข้อที่เคยรู้หรือเรียนมาตอบถูก แต่เนื้อหาที่ยังไม่ได้เรียนเช่น คำราชาศัพท์ หรือคำที่ใช้กับ พระราชวงศ์.
คำที่เป็นคำในบทร้อยกรองบางคำไม่เคยเจอไม่รู้ความหมาย อันนี้ไม่ได้แน่นอน อาจารย์ที่รับผิดชอบโครงการลองเอาข้อสอบของช่วงชั้นป. 4-6 มาให้ลองทำแต่ไม่ได้ติวให้เพิ่ม ก็พอได้ในเรื่องของหลักภาษา แต่อย่างอื่นมั่วยังไงก็ไม่ถูกแฮะ เลยบอกว่า ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกันเนอะเวลาที่ไปสอบ ไม่ได้มีโอกาสติวเพิ่มเล้ย เพราะแค่การบ้าน งานที่ต้องทำส่ง แล้วก็สอบย่อยอีก ไม่มีเวลาจะใส่ความรู้เพิ่มจากเดิมซักเท่าไหร่ ก็เลยต้องเลยตามเลยแล้วละค่ะ
ไปถึงวันที่สอบที่ร.ร. สันติราษฎร์วิทยาลัย โอ้โห รถติดมากๆ เพิ่งรู้ว่ามีคนมาสอบเยอะมาก มีมาจากต่างจังหวัดเยอะมากๆเลย รถตู้ของโรงเรียนต่างๆ จอดเต็มไปหมดตามช่องว่างของถนนที่พอจะจอดได้. วันนั้นยอมรับว่าครอบครัววุ่นวายพอสมควร เนื่องจาก น้องยูริเป็นตัวแทนโรงเรียนของทีมแดนเซอร์ที่ส่งเข้าประกวดงานแข่งขันทักษะทางวิชาการของโรงเรียนคาทอลิกที่โรงเรียนเซ็นจอห์น ต้องส่งยูริไปแต่งหน้าที่โรงเรียนเจริญพงศ์ตอน6.30 น. (ซอยแบร์ริ่ง บางนา ). จากนั้นไปส่งเอมิที่โรงเรียนสันติราษฎร์ ก่อน8.00น. (พญาไท) เพราะต้องรายงานตัวก่อนสอบ. ส่วนคุณพ่อก็ต้องไปสอนนักศึกษาที่ม.ศรีปทุม ต่อ ต้องไปให้ทันสอนก่อน8.30 น. (บางเขน) ของคุณแม่เองพอส่งเอมิถึงมืออาจารย์แล้วก็ต้องรีบไปหายูริที่โรงเรียนเซ็นจอห์น ( ลาดพร้าว). เพื่อที่จะบันทึกภาพให้กับยูริด้วยตอนที่แข่งขันประกวดเต้นกับเพื่อนๆตอน ประมาณ9.30น. งานนี้ทำเวลากันน่าดูเลย.
พอยูริประกวดเสร็จก็พามาหาเอมิที่ร.ร. สันติราษฎร์ต่อ ในตอน. 12.00น.
เจอหน้าเอมิจัง ดีใจมากเพราะกลัวว่าคนเยอะมาก จะเจอกันลำบาก ปรากฎว่าอยู่หน้าโรงเรียนพอดีเลย. ถามเอมิว่าพอจะทำได้ไหม เอมิบอกว่าพอทำได้. ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่าเพราะว่าข้อไหนไม่รู้ก็เดาตอบไป เพราะตัวเองเคยบอกลูกว่า ข้อสอบเยอะ 100 ข้อ ให้เวลา 90 นาที เอง แสดงว่าอ่านโจทย์แล้วต้องตอบเลย ถ้าคิดว่าไม่รู้ให้ผ่านเลยแล้วมาเดาเอาทีหลัง แล้วแต่ดวงล่ะลูก(ซึ่งก็คงจะไม่ได้ช่วยอะไรมากเลย เพราะฝีมือการมั่วแย่มากๆๆเลยลูกเรา). สอบเสร็จก็โล่งแล้ว เพราะเหลือแค่รอฟังผลสอบ ส่วนยูริก็ประกาศผลช่วงบ่ายเหมือนกัน เลยได้พักหายใจหน่อย. ไปหาข้าวทานที่ตึกซีพี. ทาวเวอร์ ได้มีโอกาสเจอผู้ปกครองของน้องป.3 อีกสองคนซึ่งเรียนกันคนละห้อง
รอจนบ่ายกว่ามากๆแล้ว ผลสอบถึงออก คนรุมดูบอร์ดที่ติดประกาศเยอะมาก จนบอร์ดแทบจะล้มไปอีกด้าน ต้องมีเด็กๆนักเรียนของที่นั่นมาช่วยกันดันบอร์ดที่ตั้งเอาไว้ไม่ให้ล้ม เพราะทั้งคุณครู. ผู้ปกครอง เด็ก ๆเองก็อยากจะรู้ผล. ส่วนตัวคุณแม่กับเอมิและยูริไปหาที่นั่งพักกันกะจะรอให้คนอื่นดูกันไปก่อน เลยยังใจเย็นอยู่ (ในใจคิดว่าคะแนนคงจะไม่ค่อยได้แน่ๆเพราะว่าฟังคนอื่นเค้าพูดกันว่า ติวกันมาอย่างดี เลยเป็นปีๆ ของเราติวกันเองสองแม่ลูก แค่ 10 วันจะได้อะไรไหมเนี่ย ช่างมันเถอะเนอะ). เพื่อนวิ่งมาชวนเอมิไปดูคะแนนสอบ เลยปล่อยลูกวิ่งไปกับเพื่อน. ปรากฎลูกมาบอกว่า ได้ 53. คะแนน ของเพื่อนอีกสองคนก็คะแนนไล่ลงมา. เลยไม่ได้รางวัลอะไรเลย แต่หน้าไม่เศร้าแฮะ เลยบอกว่าเยี่ยมมาก. เพราะคิดว่าจะไม่ถึงครึ่ง คือ50 คะแนน. แค่นี้ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วลูกจ๋า. ส่วนเกณฑ์ที่ผ่านคือ 75 คะแนน ส่วนรางวัลชมเชยต้อง 85 ขึ้นไป. มีแต่คนบอกว่าปีนี้คะแนนสูงมาก ๆ แบบไม่น่าเชื่อเลยอ่ะ. (ได้ยินขาเม้่้าส์บอกว่ามีบางโรงเรียนจ้างอาจารย์เป็นด็อกเตอร์เข้าไปสอนพิเศษ ซึ่งอันนี้มันคงจะเป็นเรื่องของศักดิ์ศรีที่ต้องการจะรักษาไว้ ฟังแล้วก็ต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟังข่าวต่อๆกันมาอีกด้วย เพราะเด็กที่บางโรงเรียนตั้งใจสร้างมาก็ต้องวางแผนอย่างดีแล้วถึงจะส่งลงสนามเพื่อชื่อเสียงของโรงเรียน อันนี้ก็เป็นอีกประสบการณ์หนึ่งเหมือนกัน. ). คะแนนปีนี้ค่อนข้างกว้างมากเท่าที่สายตาไล่ดูคะแนนคร่าว ๆไม่ได้จดเป๊ะ ๆๆทุกตัว คือคะแนนอยู่ระหว่าง 20- 95 ไม่แน่ใจอาจจะมีมากกว่านั้นอีก.คะแนนที่ส่วนใหญ่เฉลี่ยที่เห็นคือระหว่าง40-70 เลยทำให้ บางคนพลาดไม่ผ่านเกณฑ์เยอะมากๆ คนที่ได้รางวัลก็น้อย จนไม่ได้สนใจจะนับเลยต้องขอผ่านไม่ได้ติดตามอีก
สำหรับของยูริที่ประกวดมีนักเรียนส่งเข้าประกวด 14 ทีม(โรงเรียน). ปรากฎว่าไม่ได้รางวัลใด ๆ. ซึ่งดูแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะโรงเรียนอื่นแดนเซอร์แต่งตัวแต่งหน้าอลังการมากๆๆของเราดูเรียบไปเลย. แต่ของทีมยูริ มีการใช้ทักษะด้านการรำไทยค่อนข้างมาก มีการเปลี่ยนตำแหน่งและทิศทางบ่อย. ซึ่งแตกต่างจากโรงเรียนอื่นที่ยืนเต้นอย่างเดียวและเน้นแต่เนื้อเพลงลูกทุ่งสนุกๆฟังง่าย. สงสัยเพลงที่นักร้องในทีมยูริร้องอาจจะยากเกินไปเลยไม่ผ่านเกณฑ์ของกรรมการ ซึ่งคุณแม่มองดูแล้ว มาตราฐานเดิมของทีมเราสูงเกินไป (. เนื่องจากทั้ง 2 ปี ที่ผ่านมา. ร.ร.อนุบาลเจริญพงศ์. เคยได้รางวัลที่ 1 สองปีซ้อนเลย ปีนี้เป็นปีที่เด็กๆและคุณครูก็คงจะเหน็ดเหนื่อยกับการซ้อมและการเอาชนะความคาดหวังจากคณะกรรมการที่ได้เคยตัดสินมาในปีก่อนๆว่าต้องทำได้ดีมากขึ้นอีก. คุณแม่ก็เข้าใจดีว่าภาระนี้มันหนักหนาอยู่เหมือนกัน). เมื่อยูริรู้ว่าไม่ได้รางวัลใดๆก็ออกจะเศร้าๆอยู่เหมือนกัน เพราะเค้าซ้อมที่โรงเรียนทุกวันในตอนพักกลางวันขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ได้ไปวิ่งเล่นที่สนามเด็กเล่น แต่เค้าไม่มีเวลาได้เล่น แถม. เวลาที่จะทำแบบฝึกหัดก็ต้องรีบมาทำตามเพื่อนให้ทันตอนช่วงที่ซ้อมแล้วกลับมาที่ห้องเรียนช่วงบ่ายช้า ลายมือหวัดมากๆก็ต้องเร่งเขียนตามเพื่อนให้ทัน ด้วยความเห็นใจลูกและอดสงสารกับการพลาดหวังรางวัลประกวดครั้งนี้ ดิฉันก็เลยได้แต่ปลอบใจว่า หนูรำได้ดีมาก แต่งตัวแต่งหน้าสวยด้วย จนคุณแม่และผู้ปกครองคนอื่นจำแทบไม่ได้เลยจริง ๆขนาดคุณครูยังชมเลย. คราวหน้าถ้ามีโอกาสเกี่ยวกับการแสดงรำไทยเรามาลองกันใหม่อีกครั้งนะค่ะ แค่หนูผ่านการคัดเลือกจากคุณครูให้มาร่วมทีมประกวดเป็นตัวแทนของโรงเรียนก็นับว่าเป็นเกียรติ และเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เพื่อน คนไหน. ๆ ก็ไม่ได้มาสัมผัสบรรยากาศการแข่งขันใหญ่ๆอย่างนี้ ดิฉันให้เอมิกับยูริเดินเที่ยวภายในโรงเรียนสันติราษฎร์ต่อในช่วงบ่ายเพราะมีกิจกรรมอื่นๆอีกที่นั่น เช่น. ทำสมุดทำมือจากกระดาษเหลือใช้. บิดลูกโป่ง. ทำเครื่องหอมบุหงาดอกไม้สด. ซึ่งมีเด็กนักเรียนจิตอาสาชั้นม.ปลายและอาจารย์ที่น่ารักหลายท่านมาช่วยสอนและให้ความรู้กับเด็กๆ. เด็กนักเรียนบางคนมาจากต่างจังหวัดกันไกลๆก็มี. ถ้ามาเพื่อสอบอย่างเดียวก็คงจะไม่สนุกแน่ๆ ดิฉันว่าก็ดีเหมือนกันได้มีกิจกรรมอะไรทำก่อนที่จะประกาศผลสอบ ไม่อย่างนั้นก็จะน่าเบื่อมากๆเลย
งานนี้ยูริเลยได้ถ่ายรูปกับพี่ๆเด็กนักเรียนที่สันติราษฎร์ไปหลายคนเกือบทุกเต้นท์ที่มีกิจกรรมเลยเพราะว่ายังไม่ได้เปลี่ยนชุดรำไทยออกเลยมีคนมาขอถ่ายรูปเยอะเลย ก็สนุกสนานกันไป กว่าคุณพ่อจะมารับ ทั้งสองสาวก็พากันวิ่งเล่นซะจนเหงื่อแตกกับน้องอายูมิ เพื่อนของเอมิที่คุณแม่น้องต้องขับรถกลับไปที่ชลบุรีเลยรอให้รถเริ่มซาๆก่อนเพราะรถติดมากเลย
จนกระทั่งคุณพ่อมาแวะรับกลับพอขึ้นรถได้เรียกว่าดื่มน้ำปุ๊บ ปิดสวิทซ์ตัวเองปั๊บทั้งสองสาวเลย งานนี้หลับยาว ..ย้าว...ยาว จนเย็นย่ำถึงจะฟื้นมาทานข้าวกัน งานนี้หมดพลังงานกันไปเยอะเลย แต่ก็รู้สึกดีที่ทำให้เรารู้ว่าลูกเรา สงสัยจะเข้าใจภาษาไทยมากกว่าเลข เพราะคะแนนก็ไม่ขี้เหร่เท่าไหร่ ในความคิดของคุณแม่เพราะข้อสอบมันยากจริงๆ ส่วนยูริสาวน้อยที่ดูนิ่มๆก็กล้าที่จะแสดงขึ้นเวทีใหญ่ๆต่างโรงเรียนคนมายืนดูเยอะๆ ได้ขนาดนี้ก็โอเคแล้วล่ะน้า...
ขอบใจลูกๆทั้งสองคนเลยนะที่ให้คุณแม่ได้มีประสบการณ์ที่ดีๆไปพร้อมๆกับลูกๆนะ. ลูกแม่เยี่ยมเลยจ้า...(ขอแอบชมลูกตัวเองหน่อย นิดนึงนะค่ะ)
เดี๋ยวมีเวลาจะกลับมาเล่าเรื่องอื่นๆต่อนะค่ะ
คำค้นหา: ไม่ระบุคำค้นหา
แวะมากด like ให้สองสาวจ้า แต่คนที่น่าจะรับ like มากสุดก็คือคุณแม่แสนอึดคนนี้..
ลำพังแค่ไปรอลูกสอบเพชรยอดมงกุฎก็เหนื่อยเช้ายันบ่ายแล้ว ยังต้องวิ่งรอกพายูริไปประกวดรำไทยอีก สุดยอดค่ะ
ดีจังเลยที่เด็กๆรู้จักยอมรับผลการแข่งขันและไม่เสียใจอย่างที่แม่เฮี้ยงบอกแค่ได้มีส่วนร่วม ได้แสดงความสามารถของเรา
ให้เต็มที่ก็ถือว่าดีมากแล้ว แม้ว่าเราจะเป็นคนเก่งในรร.ก็อาจจะยังมีคนอื่นที่เก่งกว่าเราได้ ประสบการณ์ในการแข่งขันที่เจอทั้งคนที่ได้คะแนนน้อยกว่าเราและมากกว่าเรา จะสอนให้ลูกไม่ประมาทและพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไป