รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่


ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่

เกมคิดราคาอาหารร้าน fast food


ป้ายโฆษณา

ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com
คุณกำลังหาหรืออยากได้อะไรใน karn.tvclick ที่นี่!

 

Blog Me!

เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!

โพสต์โดย amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ พุธ, 11 เมษายน 2012
ใน บันทึกลูกรัก

เรื่องคุยของลูกตอนที่ 5(มันผ่านไปแล้ว)

ผ่านไปแล้วสัปดาห์ของการรอคอยหลังจากสอบที่ร.ร. สาธิต  ม.ศ.ว. เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 55  ยูริสอบไม่ผ่าน ถึงแม้ว่าลูกจะสอบไม่ติดเราก็ยังรู้สึกสบายใจมากกว่า เพราะถ้าลูกสอบติดแล้วต้องเรียนกันคนละที่กันกับพี่สาว  ชีวิตก็คงจะวุ่นวายกันเต็มทีเพราะว่าไม่รู้จะเต็มที่กับลูกสองคนได้อย่างไร  คุณพ่อเองก็บอกว่าไม่เป็นไร ก็แค่อยากรู้ผลสอบว่ายูริทำข้อสอบได้มากน้อยแค่ไหน  เพราะเราเองก็อยากจะรู้ว่าการเรียนติวแบบที่แตกต่างกันระหว่างของเอมิกับยูริจะเป็นอย่างไร  เพราะของเอมิ สอนโดยคุณครูที่มีการแบ่งแยกเนื้อหาเป็นเรื่อง ๆ ซึ่งรวมแล้วก็จะมีประมาณ 49 เรื่อง และมีการเรียนการสอนแบบประเมินละเอียดว่าน้องไม่รู้เรื่องอะไรบ้าง มีการสอนแบบกลุ่มเล็ก 6-7 คนต่อกลุ่ม  มีโจทย์มาให้ฝึกทำ คุณครูจบจากจุฬา เกียรตินิยม  แต่ของยูริ ตรงข้ามทุกอย่างเลย  เรียนเป็นกลุ่มใหญ่ ห้องหนึ่งมีประมาณ 15-17 คน มีครูสอน 1 คน ครูช่วยดูแลอีก 2-3 คน  คอยดูว่าเด็กตามทันไหม  การเรียนการสอนก็ต้องกระตุ้นล่อใจด้วยการเปิดการ์ตูนความรู้สนุก ๆ  ให้เด็กดูและฟังจับใจความว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง  การสอนไม่เรียบเรียงเนื้อหา แล้วแต่ว่าอยากจะเอามาใช้ในการสอน  และของที่เอามาให้ดูนั้นเกี่ยวข้องกับวิชาใดบ้าง ก็หยิบยกขึ้นมาสอนหรือพูดคุย เพราะฉะนั้น จึงไม่แน่ใจว่าสอนได้ครอบคลุมหรือเปล่า   การบ้านให้ฝึกทำไม่มี  ถ้าหากอยากจะฝึกทำก็ดูและจำแนว  ๆคำถามแล้วไปสอนลูกเอาเองอีกที  ชีทได้มาแค่ 4-5 ชุด ตอนที่เริ่มใหม่ ๆ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ให้เอาชีทกลับ บอกว่าจะสอนที่ลูกของเราไม่เข้าใจเอง   ถ้าเราไม่รู้เรื่องอะไรก็ไม่ต้องสอนเดี๋ยวคุณครูจะสอนและปิดจุดอ่อนของเด็กเอง  และคุณครูก็ไม่ได้จบครูค่ะ จบจากรามคำแหง  เป็นคุณพ่อที่มีหน้าที่เลี้ยงลูกเองและมีความตั้งใจ  มุ่งมั่นกับการเลี้ยงลูกให้เก่ง ฉลาด มันทำให้คุณแม่เองก็ออกจะงง ๆกับแนวคิดนี้   ในตอนแรกที่ฟังแนวคิดการเรียนการสอนของคุณครูรู้สึกดีค่ะเพราะเป็นการสอนแบบความรักนำความรู้  ครูมีเจตนาที่ดีที่อยากจะเปิดโอกาสให้ลูกคนอื่นได้มาเรียนรู้ตามแบบตามวิธีการที่เคยติวลูกของตัวเองแล้วได้ผลแต่เจตนารมย์กับวิธีการดูท่าจะไม่ไปด้วยกันเพราะความคาดหวังของครูว่าเด็กจะมุ่งมั่นตั้งใจกันทุกคน  จิตใจจะฮึกเหิมได้ทุกคนและตลอดเวลาคงจะยากสักหน่อย อีกอย่างการเรียนกลุ่มมากขนาดใหญ่ และสอนหลายกลุ่มโดยครูเพียงคนเดียวตลอดนั้นดูท่าร่างกายก็จะไม่ไหวด้วย  ดิฉันก็ยังมองว่าถ้าคุณครูให้โจทย์มานั่งทบทวนเองที่ผ่านมาบ้าง น่าจะช่วยได้มากกว่าที่ครูจะต้องมาแบกรับความคาดหวัง กับการรับปากว่าจะสอนให้ดีที่สุด การตั้งใจว่าจะปั้นเด็กทุกคนให้เก่งเหมือนลูกของตัวเองในระยะอันสั้น(อย่างมากก็เรียนกันช่วง 1 ปี )แต่คุณครูอยู่กับลูกของตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง มาตั้งแต่เกิด สังเกตลูกของตัวเองได้ตลอดเวลา  ดิฉันจึงเห็นใจคุณครูพ่อ คนนี้มาก ๆเลยค่ะ และขอบคุณสำหรับการคิดเอื้อเฟื้อแบ่งปัน ความฝันที่จะสร้างเด็กที่เก่ง ๆขึ้นมาโดยไม่เครียดแต่เด็กสามารถคิดเองและเก่งได้ ซึ่งดิฉันก็ได้เรียนรู้แนวคิดที่หลากหลายจากทั้งการมองคุณครูและผู้ปกครองที่ทุ่มเทเพื่อลูกกันอย่างมากมาย บางคนขับรถมาจากที่ไกล ๆ  เสียเวลา  ทิ้งงานทิ้งการ ลางานมาเฝ้าลูก ยอมจ่ายค่าเรียนเพื่อความหวังความฝันที่ต้องการทำเพื่อลูกได้  ตอนนี้ย้อนกลับมามองตัวเอง  คิดว่าเราน่าจะสอนลูกให้รู้หรือมีประสบการณ์ชีวิตได้ดีกว่าการเสียเวลาไปไกล   ๆความรู้อยู่รอบตัวเรานี่เอง  คิดว่าคงจะต้องเอาวิธีที่เคยสอนเอมิจังมาปรับใช้กับยูริน่าจะเหมาะกว่า และคิดว่าเข้ากับการใช้ชีวิตในแบบของครอบครัวเราหรือตามที่เราวางเป้าหมายไว้  แต่คุณแม่ก็ยังไม่เลิกที่จะเสาะหาคุณครูคนเก่ง  ๆที่โดนใจคุณแม่กับคุณลูกนะคะ  เพราะเชื่อว่ามันต้องมีคุณครูที่เคมีตรงกันกับลูกของเรา และสามารถพัฒนาลูกเราให้ดีขึ้นเหมือนกับ ที่เรากำลังรอสิ่งสำคัญที่จะมาจุดระเบิดความคิด กระตุ้นความสามารถ สอนให้ลูกเข้าใจวิชาต่าง  ๆที่ควรรู้ ได้ง่าย ๆ   (เพราะถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเรียนมาเยอะ  ความรู้มีอยู่เต็มหัว แต่ก็ไม่สามารถพูดภาษาวิชาการให้เด็กอายุ 5 กับ 7 ขวบฟังได้ง่าย ๆอย่างที่เรารู้  ก็ยังคิดว่าในโลกนี้ลูกยังต้องได้เจอคุณครูในดวงใจของเค้าอย่างแนนอน เหมือนสมัยที่เรายังเด็ก  ๆแล้วมีคุณครูที่เราชอบและพร้อมจะตั้งใจเรียนถึงแม้ว่าช่วงบ่ายจะอยากงีบหลับบ้างก็ตามที   เจ้าประคู้ณ ขอให้ลูก  ๆของอิชั้นเจอเยอะๆด้วยเถิด  สาธุ...)    อย่างไรก็ตามทั้งเอมิกับยูริก็มีครูที่อยู่ในดวงใจประจำชั้นเรียนอยู่เสมอที่จำได้ไม่เคยลืมของเอมิก็คือ  อาจารย์กอบเกื้อ ท่านเก่งมาก สอนภาษาไทย สังคม  ประวัติศาสตร์ ทำเรื่องยาก  ๆให้เข้าใจได้ง่าย  ๆลูกรักมาก จนทุกวันนี้ก็ยังปลื้มอาจารย์อยู่รวมถึงคุณแม่ด้วยเพราะอาจารย์ดำรงตนเหมาะสมสำหรับคำว่าอาจารย์ได้สมบูรณ์จริง ๆ  เก่งทุกอย่างทั้งวิชาการ กิจกรรม หรือกีฬาก็ตามที(เอมิจังน่ะบอกว่าอยากจะอยู่ทีมสีเดียวกับอาจารย์ทุก  ๆ ปีเลยรู้หรือเปล่าค่ะ อาจารย์กอบเกื้อขา) แต่ถึงอาจารย์จะย้ายไปสอนที่ร.ร.สาธิตขอนแก่นแล้ว แต่ครอบครัวนี้ไม่ลืมอาจารย์นะคะ(อาจารย์จะรู้ไหมเนี่ยว่า  บ้านเราชอบอาจารย์มาก ๆๆๆๆ)  หรือถ้าเป็นช่วงซัมเมอร์นี้ก็ต้องอาจารย์รุ่งทิพย์ ป. 2 ที่มาสอนคณิตให้กับเด็ก ๆรุ่นเอมิจัง(ขอบอกว่ากิตติศัพท์ว่าอาจารย์ดุมาก ๆ ผู้ปกครองกับนักเรียนหลายคนบอกมา  แต่เอมิเพิ่งมีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์  คุณแม่เองก็หวั่น ๆว่าอาจารย์จะดุจริง ๆๆหรือ  แต่ไม่เป็นอย่างนั้น  เอมิบอกว่าอาจารย์ใจดีมาก สอนให้คิดเลขแบบใหม่ ๆที่เค้าไม่เคยรู้มาก่อนเลย  ไม่ดุด้วย สอนสนุก  คุณแม่ก็เลยโล่งใจค่ะ  แสดงว่าอาจารย์อาจจะดุกับเด็กที่ดื้อจริง ๆเท่านั้นเอง  ขอแก้ข่าวให้ทราบโดยทั่วกันนะคะ  ตัวจริงอาจารย์รุ่งทิพย์ใจดีค้า...ท่านผู้ปกครองทุกคน  ขอบอกว่าสอนดี  รับผิดชอบเด็กดีด้วยนะคะ )  ส่วนยูริตอนนี้ก็สนุกอยู่กับการเรียนทำอาหารไทย และขนมไทย ในช่วงเช้า  เรียนว่ายน้ำช่วงบ่าย เป็นวันอันแสนสุขที่ได้ทำกิจกรรมสุดโปรดคือการได้ทำอาหารและชิมอาหารที่ตัวเองได้ลองทำ  ยูริมีความสามารถเรื่องการชิมอาหารมากสามารถบอกได้ว่าอะไรอร่อย  ไม่อร่อย  ไม่อร่อยเพราะรสชาติมันเป็นยังไง  ขนาดรสชาติชีสยังบอกได้ว่าเป็นประเภทไหนเลย ยี่ห้อไหน  หรือขนาดแม้แต่ นมข้นหวานที่ทาขนมปังปิ้งยังรู้เลยว่าของร้านอาหารที่โรงเรียนใช้คนละยี่ห้อกับที่บ้าน   ทั้ง ๆที่ไม่เคยรู้ยี่ห้อนมข้นหวานของที่ร.ร.มาก่อนเลย  แม้แต่ไอศรีมยังรู้ว่าอันที่อร่อย  ครีม  น้ำตาล อันไหนเข้มข้น อร่อยกว่า   แต่คงจะจำชื่อยี่ห้อไม่ได้ทั้งหมด  ขนาดเราเองก็ยังคิดว่านมข้นหวานยี่ห้อไหน ๆก็น่าจะรสชาติเหมือน ๆกันหมด
                สำหรับเรื่องการสอบที่ผ่านไปของยูริ   เราเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก เพราะรู้ว่าโอกาสได้มันยากมาก ต้องตั้งใจอย่างที่สุดของที่สุดจริง ๆจึงจะมีโอกาส  ก็อย่างที่บอกการเรียนกับคุณครูที่มีผลงานว่าสอนแล้วเด็กสอบติดได้เยอะ  จริง ๆแล้วไม่ใช่ว่าเด็กทั้งหมดที่เรียนจะสอบติดได้ตามที่เราคาดหวัง  เพราะฉะนั้น  สำหรับผู้ปกครองที่จะเข้ามาเพื่อลองสอบหวังว่าลูกเราจะเก่งเลยจากการติวของคุณครูนั้นมันไม่ใช่คำตอบทั้งหมดนะคะ  ต้องคิดบวก  ลบ คูณหาร  หลาย  ๆอย่าง  ว่าติวเพื่ออะไร ผลดีผลเสีย เอ... จะเรียกว่าผลเสียของการเรียนก็คงจะไม่ถูก  ขอเปลี่ยนเป็นคุ้มค่าไหมกับการเสียเงินค่าเรียนค่าใช้จ่าย  เสียเวลา  เสียอารมณ์(เวลาที่แม่จ่ายเงินเรียนไปแล้ว แต่ลูกไม่ตั้งใจเรียน ตามที่คาดหวังไว้)  มันก็น่าเสียดายนะคะ  สำหรับเด็ก  ๆคนไหนที่สอบติด ต้องขอแสดงความยินดีจากใจจริงค่ะ ส่วนคนที่ไม่ได้ไม่ต้องคิดมาก  ยังมีร.ร.ดี  ๆที่จะสามารถพัฒนาศักยภาพในตัวลูกทุกคนได้ค่ะ  ถ้าสนใจอยากเป็นเพื่อนร่วมสถาบันเดียวกับเอมิจังล่ะก็ยินดีเลยนะคะ  เป็นทางเลือกหนึ่งที่คุณผู้ปกครองหรือคุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดเสียดายถ้าไม่มาเรียนที่นี่ก็ได้ค่ะ  การสอบคัดเลือกไม่ยากมาก  คู่แข่งน้อย  คนที่จะมีโอกาสถูกคัดเลือกให้เรียนได้คือคนที่ชนะตัวเองค่ะ ไม่ใช่ชนะคนอื่น  คือเด็กที่กล้าคิดกล้าแสดงออก กล้าแสดงพลังและความสามารถในตัวเองออกมา ค้นหาว่าตัวเองชอบอะไรและจะวางเป้าหมายอย่างไรให้กับชีวิตโดยผ่านทั้งการเรียนด้านวิชา  และกล้าคิดกล้าทำกิจกรรม ซึ่งมีเวทีให้ทุกคนได้แสดงความสามารถของตัวเองออกมา  โดยไม่ต้องจำกัดว่าคุณจะเป็นชนชั้นใดก็ตามที  ลูกคุณหญิง  ลูกนายพล ลูกตำรวจ  ลูกเจ้าของโรงงาน  ลูกคนสวน คนเลี้ยงปลา  ลูกคนขับเรือ ลูกพนักงานบริษัทก็เป็นเพื่อนกันได้ ทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น  อังกฤษ  เราเป็นเพื่อนกัน ช่วยเหลือกัน ไม่ต้องใส่ซองบริจาคเป็นใบเบิกทาง   ครอบครัวที่อบอุ่นนี้กำลังก่อร่างสร้างตัวเข้าสู่ปีที่ 11 แล้ว สนใจก็หาข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะ หรือจะถามดิฉันมาก็ยินดีจะไปหาคำตอบมาให้ค่ะ  โรงเรียนนี้อาจจะไม่ได้เก่ง ดีเด่นทั้งหมด  แต่คุณเชื่อเถอะว่าที่นี่จะทำให้เด็กหลังห้องอยากมานั่งข้างหน้า  ส่วนคนที่อยู่แถวหน้า ไม่อยากโดนจับไปอยู่ข้างหลังเดี๋ยวแย่งกันยกมือตอบไม่ทัน  ลองดูนะคะ   โชคดีค่ะท่านผู้ปกครองและต้นกล้าน้อย ๆทุกต้นที่กำลังจะเติบโต  แล้วจะกลับมาคุยใหม่นะคะ
โหวตให้คะแนนบทความนี้
คำค้นหา: ไม่ระบุคำค้นหา
amijung (657 คะแนนที่ได้รับ)
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
เหรียญรางวัล:

ความคิดเห็น

kruna314
kruna314
kruna314 ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
kruna314 ศุกร์, 13 เมษายน 2012

เป็นกำลังใจให้น้องยูรินะคะ:D:D

amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
amijung ศุกร์, 13 เมษายน 2012

ขอบคุณค่ะ คุณครูนา อยากรู้จังว่าเด็กๆที่จังหวัดของคุณครูนาต้องมีการสอบแข่งขันเข้าเรียนในโรงเรียนเด่นๆดังๆบ้างหรือเปล่าค่ะ การแข่งขันเข้มข้นไหมค่ะ เด็กส่วนใหญ่มีแนวการเรียนอย่างไรบ้างค่ะ เคยคุยกับเพื่อนๆหลายๆจังหวัดอย่างนครสวรรค์ ลพบุรี มหาสารคาม แข่งขันกันน่าดูเลย สงสัยจะเป็นเหมือนๆกันหมดเลยหรือเปล่าค่ะ ของคุณครูสอนเฉพาะอนุบาลหรือเปล่าค่ะ เด็กๆคงน่ารักกันมากเลยนะค่ะเป็นของรัฐบาลใช่ไหมค่ะ เพิ่งเข้ามาอ่านเขียนบล็อคค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักคุณครูนะคะ ยูริเพิ่งครบ 5 ขวบเต็มเมื่อ 6 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง. กำลังจะรอขึ้นอนุบาล 3แล้วล่ะค่ะ มีอะไรฝากแนะนำบ้างนะค่ขอบคุณ
แม่เอมิกับยูริ

กรุณา เข้าระบบ หากต้องการแสดงความคิดเห็นของคุณ