รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่
ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่
เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!
เมื่อเช้าไปส่งลูกที่โรงเรียน เวลาเพียง 7 โมงเศษๆ ก็มีผปค.จำนวนหนึ่งยืนเข้าคิวรอซื้อใบสมัครสอบ ป.1 กันแล้ว
เห็นแล้วก็ทำให้นึกย้อนไปถึงวันที่เราเองก็ต้องมารอซื้อใบสมัคร ..อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ..อารมณ์แบบนี้ เช่นกัน
มองแล้วรู้สึกเข้าใจคุณพ่อคุณแม่ และเอาใจช่วยให้เพื่อนๆพาลูกน้อยของแต่ละบ้านผ่านการแข่งขันที่แสนโหดนี้ไปได้
"แสนโหด" ใช่ค่ะ โหดสำหรับเด็กอนุบาลอายุแค่ 6 ขวบ ที่ต้องทิ้งช่วงเวลาที่จะได้เล่นสนุกสนาน มาเรียนพิเศษติวเสริม
ทำแบบฝึกหัดเป็นตั้งๆ โหดสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องมาค้นหาคู่มือและแบ่งเวลามาติวลูก หรือรับส่งลูกไปติวเสริมก็ตาม
ยังไม่นับความเครียดที่คอยหาจังหวะเข้ามารบกวนจิตใจตลอดช่าวระยะเวลาเตรียมตัว 1 ปีอีก ..แสนโหดจริงๆ
ในห้องนี้ของ blog อ้อยจะเอาเรื่องราวที่เคยลงใบเว็บบอร์ดมารวมไว้ที่นี่เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา เพื่อมีส่วนในการสร้างกำลังใจ
และแบ่งปันประสบการณ์โหด มัน ฮา ที่เราได้ผ่านมันมาแล้วแก่เพื่อนๆผปค.ที่ตั้งใจจะพาลูกเข้ามาประลองยุทธ์ในสนามสอบ
สาธิตรุ่นต่อๆไป ก็จะมีทั้งติวโดยแบบฝึกหัด และทำกิจกรรมเสริม สอนโดยไม่เหมือนการสอนเพื่อให้เข้าใจกระจ่างขึ้นและ
ลูกเรียนรู้ไปอย่างมีความสุข ไม่ต้องเคร่งเครียดน่ะค่ะ
เราไม่สามารถรับรองได้ว่า กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นสูตรสำเร็จหรือตัวอย่างที่ถูกต้องทำตามนี้แล้วสอบจะได้ทั้งหมดนะคะ
เพราะเด็กแต่ละคนก็มีอุปนิสัยในการเรียนรู้และจดจำข้อมูลแตกต่างกัน ปัจจัยแวดล้อมในครอบครัวที่ต่างกัน แต่เรามั่นใจว่า
ผู้ปกครองทุกคนมีความรู้เพียงพอที่จะสอนลูกได้อย่างแน่นอน แต่อาจมีเทคนิควิธีการสอนการอธิบายถ่ายทอดให้ลูกเข้าใจ
ได้แตกต่างกัน ก็ขอแบ่งปันวิธีติวของกานต์สู่กันฟังเท่านั้น
เส้นทางเดินของกานต์
เริ่มแรกที่น้องกานต์จะเข้าเรียนชั้นอนุบาล เราตัดสินใจเลือก รร.ใก้ลบ้านไว้ก่อนเพราะอยากให้ลูกปรับตัวง่ายที่สุด ลูกจะได้
ไม่ต้องตื่นเช้ามากๆ กินอาหารในรถและเดินทางไกลทั้งเช้า-เย็นแทนที่จะได้กลับมาวิ่งเล่นกับเพื่อนๆแถวบ้าน จึงเลือก
รร.โสมาภา 2 เพราะเราออกจากบ้านไม่เกิน 10 นาทีก็ถึงแล้ว อีกทั้งที่นี่เปิดสอนถึงชั้น ป.6 ด้วยแล้ว บ้านเราจึงไม่เคย
วางแผนล่วงหน้าว่าจะให้เขามาสอบโรงเรียนแนวสาธิต ..หรือประมาณองุ่นเปรี้ยวก็ไม่แน่ใจ เพราะรู้สึกอยู่ลึกๆว่า
รร.สาธิต ดูช่างไฮโซเป็นโรงเรียนในฝันของคุณพ่อคุณแม่ อัตราส่วนแข่งขันที่สูงประมาณ 1:30 มันดูจะไกลเกินเอื้อมไป
มากทีเดียว จึงเพิกเฉยต่อเรื่องนี้ไว้ไม่ได้ใส่ใจ แผนการศึกษาของลูกจึงประมาณไว้ว่า เมื่อเรียนจบชั้นป.6 ก็ไปสอบเข้า
ม.1 ที่ รร.บดินทรเดชา 2 หรือรร.สตรีวิทยา 2 ที่อยู่ไม่ไกลบ้านอีกเช่นกัน
จุดเปลี่ยนสำคัญ
วันนึงเมื่อกานต์เปิดเทอม อ.3 ได้ไม่นาน ด้วยความที่อ้อยใช้อินเตอร์เน็ทเพื่ออ่านข่าว, หาข้อมูลสารพัดสารพันอยู่เป็นประจำ
วันนึงก็มีโอกาสได้อ่านกระทู้, ข้อมูลเกี่ยวกับกระแสการสอบเข้ารร.ในแนวสาธิต ที่เขาว่าฮิตฮ็อตติดอันดับต้นๆในใจพ่อแม่
เรียนแนวบูรณาการเน้นการคิดวิเคราะห์ ส่งเสริมให้เด็กคิดและกล้าแสดงออก สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน,อุปกรณืดีครูอาจารย์
ก็มีความสามารถเพราะเป็นที่ฝึกสอนของคณะครุศาสตร์ แต่ที่โดนสุดๆก็คือถ้าเข้าได้แล้วก็เรียนยาวไปจนถึงม.6 ลูกเราจะ
ไม่ต้องเจอสนามสอบและสถานการณ์ที่โหดหินกว่าในการสอบแข่งขันเข้า ม.1 โอ..พระเจ้าจอร์จมันยอดมากกก..
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงมีการติวสอบ , การเตรียมความพร้อมให้เด็กที่แสนจะเข้มข้น ถ้าจะติวกับคุณครูติวชื่อดังๆบางคนคุณต้อง
เอาชื่อลูกไปจองคิวกันตั้งแต่ลูกเริ่มพูดได้กันทีเดียว การแข่งขันที่ดุเดือดไปด้วยเลือดและน้ำตา สำหรับครอบครัวธรรมดาๆ
อย่างเรานับเป็นการลงทุนที่แสนแพงในการติว 2 ปี 4 เทอมเหยียบแสนบาท ทั้งยังมีคำล่ำลือเรื่องโควต้าผู้มีอุปการคุณ
กับโรงเรียนอีก ไหนจะบุตรหลานบุคลากรที่มีโควต้าที่นั่งอยู่แล้วอีก เหลือที่ให้เด็กสอบประมาณ 130 ที่นั่ง
เพื่อพาลูกเข้าสู่รั้วรร.สาธิต...เฮ้อ!! อะไรมันจะวิบากขนาดนั้น ไม่เอาดีกว่าเรา
แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งมันส์ชักจะอยากรู้มากขึ้นแล้วซิ จึงสืบค้นไปเรื่อยๆในหลายๆเว็บ จนเจอกระทู้ที่ผู้ปกครองถามเรื่อง
“เกณฑ์อายุของเด็กที่จะสามารถสมัครสอบโรงเรียนในแนวสาธิต ต่างๆในปี 52” อ่านแล้วก็ลองนับเทียบกับอายุลูกดู..อ้าว!!
ลูกเราก็อายุเข้าเกณฑ์สอบนี่นายังสมัครได้นะเนี่ย เด็กทุกคนจะมีโอกาสลองสอบสนามนี้ได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
ในใจเริ่มประมวลผลชั่งน้ำหนักความรู้ความสามารถของลูก (แบบไม่มีอคติจากความรักลูกนะ) พร้อมทั้งประเมินตัวเอง
ในฐานะที่ต้องรับบทเป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการแบบเต็มๆ หากตั้งธงว่าจะไปสอบแล้ว เราก็ต้องพร้อมใจที่จะ
ทุ่มเทกันทั้งครอบครัว เพราะเราเหลือเวลาเตรียมตัวเพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งอาจน้อยกว่าคนอื่นๆอีกเป็นพันคน
จากที่เราสังเกตลูกแอบเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่นๆที่รร.บ้าง จากผลการเรียนและพฤติกรรมที่คุณครูประเมินลูกก็คิดว่าพอมีลุ้น
เอาน่ะครั้งหนึ่งในชีวิตลองสู้ดูสักตั้งนะลูกนะ อีกอย่างการเรียนในแนวของรร.สาธิต ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม มากกว่า
วิชาการเข้มข้นน่าจะเป็นคำตอบที่ตรงกับอุปนิสัยของลูกและแก้ปัญหาการไม่อยากไปโรงเรียนของลูกได้ด้วย ถ้าลูกอยาก
ไปโรงเรียนเรียนก็น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการรักเรียนต่อไปในอนาคต (แอบหวัง)
เริ่มบทเจ๊ดัน..
เมื่อคิดจะเบนเข็มมาทางนี้อ้อยจึงต้องหาข้อมูลอย่างหนัก งานเข้า..ก็เพราะเราตั้งใจจะติวลูกเอง ด้วยความที่ไม่เคยสนใจ
มาก่อนเลยว่าแนวสาธิตเขาสอบวิชาอะไรกันบ้างและดูเหมือนจะเริ่มเตรียมตัวช้ากว่าเด็กคนอื่นๆอีกนับพันคน เพื่อต่อสู้ใน
สนามสอบเอ็นทร้านส์รุ่นจิ๋วสนามใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศนี้
เพื่อนๆนึกถึงเพลง “ลูกหิน”ของคาราบาว ไปด้วยจะได้อารมณ์ม๊ากค่ะ พ่อแม่ไม่มีเงินทองขนาดนั้นอาวุธเดียวที่พ่อกับแม่
จะให้ลูกได้ก่อนลงสนามก็คือความรู้ ที่เหลือก็แล้วแต่ดวงนะลูก
ข้อมูลโรงเรียนสาธิตที่ค้นหามา
• รร.สาธิต เค้ามีที่ไหนกันบ้างนะ
เมื่อออกนอกกะลามาได้ก็เพิ่งจะรู้ว่าโรงเรียนในกลุ่มสาธิตทั่วประเทศนั้นช่างมีมากมายเหลือเกิน ถึง 59 โรงทีเดียว มากกว่าที่
เรารู้จักกันดี เช่น สาธิตจุฬาฯ, สาธิตเกษตรฯ, สาธิตประสานมิตร และ สาธิตรามฯ
รายชื่อโรงเรียนสาธิตใน กทม.
โรงเรียนมัธยมสาธิตวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร เขตบางเขน
โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขตปทุมวัน
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เขตดุสิต
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง เขตบางกะปิ
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เขตปทุมวัน
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เขตวัฒนา
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขตจตุจักร
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เขตธนบุรี
รายชื่อโรงเรียนสาธิต ในสังกัดมหาวิทยาลัยของรัฐทั่วประเทศ
1.โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา
2.โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา
3.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น
4.โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
5.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
6.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยทักษิณ
7.โครงการจัดตั้ง โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา
8.โรงเรียนสาธิต "พิบูลบำเพ็ญ" มหาวิทยาลัยบูรพา
9.โรงเรียนมัธยมสาธิตมหาวิทยาลัยนเรศวร
10.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
11.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง
12.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน
13.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร
14.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ (สถาบันวิจัย พัฒนา และสาธิตการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ)
15.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศิลปากร
16.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม รร.สาธิตในสังกัดหมาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเอกชนอีกด้วย ดูเพิ่มเติมได้จาก "วิกิพีเดีย" ค่ะ
• เกณฑ์อายุที่รับของแต่ละแห่ง
แต่ละโรงเรียนมีเกณฑ์อายุรับสมัครเด็กที่แตกต่างกัน ก็เพิ่งจะรู้อีกว่า รร.สาธิตประสานมิตร เค้ารับเด็กเล็กเข้าเรียนอ.3 ไม่ใช่ ป.1
อ้าวอายุเกินไปซะแล้วซิเรา..อดไป 1 แห่ง ดังนั้นดูเกณฑ์อายุให้ดีค่ะ
• วิชาที่ต้องใช้สอบ
จากการหาข้อมูล ตลอดจนศึกษาตำราติวสอบต่างๆที่วางขายในท้องตลาดและแนวข้อสอบเก่า จึงรู้ว่าในการสอบวัดผลของ
สาธิตเกษตร มีเพียงแค่ 3 วิชา คือคณิตศาสตร์, ภาษาไทยและเชาวน์
ดังนั้นเพื่อนๆที่เพิ่งคิดจะสอบ ไม่ต้องกลัวค่ะเรายังมีเวลาเตรียมตัวได้ทัน...สู้ๆนะ ศึกษาข้อมูลจากหนังสือติวสอบของสำนักพิมพ์ต่างๆ
แล้วไปเลือกซื้อมาเลยค่ะ
เลือกโรงเรียน
เมื่อได้ข้อมูล รร.สาธิตทุกแห่งมาแล้วเราก็คัดกรองข้อมูลที่เป็นไปได้ และสรุปตัดสินใจเลือกสอบที่ รร.สาธิตเกษตร เพียงที่เดียว
ด้วยเหตุผล คือ
1. ระยะทาง รร.อื่นแม้ว่าแสนดี แต่หากสอบได้ เราก็คงลำบากมากๆในการไปรับ-ส่งลูก ก็เรียนใก้ลบ้านซะเคยตัวทั้งแม่ทั้งลูกนี่นา
2. มีการเรียนการสอนต่อเนื่องไปจนถึง ม.6 หากเข้าได้ก็สบายไป 12 ปี
3. โควต้ารับตรงเข้าเรียน คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ หากลูกมีผลการเรียนที่ดีอย่างต่อเนื่องก็มีโอกาสได้รับพิจารณา คัดเลือกเข้าเรียนต่อได้ ที่แอบฝันไว้ก็คือภาควิชาวิศวกรรมการบินและอวกาศ (ฝันไว้ก่อน...)
4. ความรักและคุ้นเคยในสถาบัน อันนี้ส่วนตัวไปนิดนึงคือดิฉันจบจากคณะสังคมศาสตร์ ซึ่งก็อยู่ใก้ลๆรั้ว รร.สาธิต มาก่อนจึงเพิ่ม คะแนนบวกให้น้ำหนักตรงส่วนสถานที่อีกเล็กน้อย
5. หากเลือกสอบ 2 แห่ง คือ เช้าไปสอบสาธิตเกษตร บ่ายไปสอบสาธิตจุฬา ตามที่มีเพื่อนผู้ปกครองรุ่นพี่หลายๆท่านเคยทำสำเร็จ มาแล้ว ก็เกรงว่าจะเหนื่อยและเครียดเกินไป
เมื่อล็อคเป้าหมายได้แล้ว..เดี๋ยวจะเริ่มเข้าสู่โหมดการตะลุยติวแล้วนะคะ..โปรดติดตามต่อ
ตะลุยติวเข้ม..แต่ไม่เคร่งเครียด
เมื่อเราสามคนพ่อแม่ลูกตัดสินใจจะลองไปสอบดูสักครั้งหนึ่งในชีวิต ก็คิดว่าต้องทำให้เต็มที่และดีที่สุดไปเลยหากเราทำ
เต็มที่แล้วสอบไม่ได้ก็ไม่น่าเสียดาย และสัญญากันว่าจะไม่มาพูดทีหลังว่า..รู้งี้อดทนติวกันอีกนิดน่าจะดี
เถ้าความไปถึงตอนที่นั่งค้นข้อมูลอ้อยได้อ่านกระทู้ของ คุณแม่สาธิต2550 ที่ post ไว้ตั้งแต่ปี 2007 เว็บไหนก็จำไม่ได้ซึ่งบอก
รายชื่อหนังสือติวเข้ารร.สาธิตของทุกสำนักพิมพ์ไว้อย่างละเอียด กระทู้นี้นี่เองได้จุดประกายให้ดิฉันตั้งใจว่าจะติวลูกเอง..เพราะงก
เพราะเราดูแบบฝึกหัดในหนังสือเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่า เฮ้..แบบนี้เราสอนได้นะ บางส่วนมันอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วเป็นเรื่องพื้นฐาน
ใก้ลๆตัวนี่เอง จึงรู้สึกสนุก อยากสอนขึ้นมาทันที ประกอบกับมีเวลาและคิดว่าจะสะดวกกับลูกด้วยที่จะจัดตารางติวที่บ้านและยืดหยุ่น
ตามสถานการณ์และอารมณ์ของลูกได้ด้วย
นี่เป็นรายชื่อหนังสือติวที่ แม่สาธิต2550 ให้ไว้ในกระทู้
เล่ม 1 แบบทดสอบ เตรียมความพร้อม ปัญญา-เชาวน์ Qquiz vol. 1
เล่ม 2 แบบทดสอบ เตรียมความพร้อม ปัญญา-เชาวน์ Qquiz vol 2
เล่ม 3-6 แบบฝึกตาและมือให้สัมพันธ์กัน เล่ม 1-4 ของ อาจารย์ พูนสุข บุณย์สวัสดิ์ (บ้านของเล่น) และ ลักษณ์ยุทธ ตรีชัย
เล่มที่ 7 ติวลูกเตรียมสอบ คู่มือเตรียมสอบเข้า ป.1 โรงเรียนในเครือสาธิต เล่ม 1 ของ PASS
เล่มที่ 8 ติวลูกเตรียมสอบ คู่มือเตรียมสอบเข้า ป.1 โรงเรียนในเครือสาธิต เล่ม 2 ของ PASS
เล่มที่ 9 ติวลูกเตรียมสอบ คู่มือเตรียมสอบเข้า ป.1 โรงเรียนในเครือสาธิต เล่ม 3 ของ PASS
เล่มที่ 10-14 ของ ดอกหญ้าวิชาการ
เสริมทักษะพื้นฐานระดับอนุบาล เพื่อสอบเข้า ป.1 เล่ม 1-5 ของ อ. สุภัทรา ฤทธิบุตร
เล่มที่ 15-18 ของดอกหญ้าวิชาการ
เสิรมทักษะพื้นฐานระดับอนุบาล 3 เตรียมสอบเข้า ป.1 เล่ม 1-4 ของ อ. ทองทิพย์ วงศ์หลิว
เล่มที่ 19 เกี่ยวกับการฟัง
แบบฝึกทักษะ การอ่านจับใจความ ป.1 ของ The Book ผู้แต่ง อ. ทินรัตน์ จันทราทินันท์
เกี่ยวกับการฟัง จับใจความ เล่มนี้ ครูติวมีกันทุกคน
เล่มที่ 20 เชาวน์ไว แบบทดสอบเตรียมความพร้อม ของ ห้องเรียน
เล่มที่ 21-26 (6 เล่มนี้ต้องมี)
แบบฝึกทักษะเด็กปฐมวัย สำหรับเตรียมสอบเข้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เล่ม1-6 โดย วรมน สอนสมบุญ
จบการสึกษาสาขาการศึกษาปฐมวัย ครุศาสตรบัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6 เล่มนี้ ครูที่ดังที่สุด 2 จ้าว
ใช้สอนเด็กช่วง Intensive ที่ผ่านมาค่ะ
เล่มที่ 27 เสริมไอคิว ของ ห้องเรียน
เล่มที่ 28 ฉลาดคิด ของห้องเรียน
เล่มท่ 29 สมองไว ของห้องเรียน
เล่มท่ 30 ทางแสนกล ของห้องเรียน
เล่มที่ 31 คำตรงกันข้าม ของ หนังสือสายน้ำ
เล่มที่ 32 เรียนรู้ลักษณนาม ของหนังสือสายน้ำ
เล่มที่ 33 เตรียมความพร้อม ความรู้ทั่วไป ของ ปิกัสโซ
เล่มที่ 34 เตรียมความพร้อม คณิตศาสตร์ ของ ปิกัสโซ
เล่มที่ 35 เตรียมความพร้อม เชาวน์ปัญญา ของ ปิกัสโซ
เล่มที่ 36 เตรียมความพร้อม ภาษาไทย ของ ปิกัสโซ
เล่มที่ 37 ลากเส้นก่อนเขียน ของปิกัสโซ
(ปัจจุบันไม่แน่ใจว่าหนังสือเหล่ายังมีครบหรือไม่ ปีนี้เห็นเพื่อนไปกว้านซื้อหนังสือมาติวลูกมีหนังสือใหม่ๆน่าสนใจอีกมากค่ะ)
เมื่อรู้รายชื่อหนังสือแล้วก็ไปตามล่าหาซื้อมาค่ะ ทั้งศูนย์หนังสือจุฬา, ร้านซีเอ็ด, ดอกหญ้า ฯลฯ เรียกว่าเจอร้านหนังสือที่ไหน
เป็นต้องแวะเข้าไปดูแต่ก็ซื้อมาไม่ถึงครึ่งหรอกนะคะ เมื่อมีคู่มือแล้วก็เริ่มลงมือกันเลย วันธรรมดาก็สัก 1 ชม.ก่อนนอน วันเสาร์
อาทิตย์ก็ 4 ชม. เช้า2 บ่าย2 เพื่อนบางคนก็ว่าโอโหติววันละ 4 ชม.หนักจัง ที่จริงไม่หนักเท่าไรหรอกค่ะ ก็เราไม่ได้ถือไม้นั่งคุม
ให้ลูกนั่งทำแบบฝึกหัดตลอดเวลานี่นา
แต่มีเทคนิค มีกิจกรรมแทรกตามแบบฝึกหัดด้วยเพื่อให้ลูกไม่เบื่อหน่าย บางครั้งก็เนียนจนเจ้าตัวเล็กไม่รู้ตัวว่ากำลังติวอยู่ซะ
ด้วยซ้ำไป เราจะใช้คำว่า เรามาเล่น....กันนะลูก
เช่น เรื่องภาพเงา ก็เอาไฟฉายมาส่อง เรียนรูจุดกระทบของแสงและจุดที่เกิดเงา
ภาพสะท้อนกระจก ก็เอากระจกมาส่องพิสูจน์
ภาพพับครึ่ง ก็เอากระดาษมาตัดกันจริงๆ เพื่อพิสูจน์ว่าภาพในโจทย์จะได้คำตอบออกมาเป็นแบบใดเหมือนที่ลูกคิดหรือไม่
เรื่องเทคนิคการเรียนการสอน ก็คิดเอาเองว่านอกจากทำแบบผึกหัดในกระดาษควรให้ลูกได้ปฏิบัติจริงด้วยในทุกๆหัวข้อ
เพื่อให้รู้แบบเข้าใจถ่องแท้และหาเหตุผลได้ มิใช่การจำแบบฝึกหัดที่กากบาทให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าลูกเข้าใจหลักการ
เมื่อเจอโจทย์พลิกแพลงยังไงก็ไม่จนมุม ดังนั้นมาเลยลูกเล่นกันให้สนุกจากอุปรณ์รอบๆตัว
อุปกรณ์ในการติวโจทย์เชาวน์
• ลูกเต๋ากระดาษ เช่น น้ำเต้า ปู ปลา
ใช้สอนเรื่องอนุกรมลูกเต๋า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อสอบเชาวน์ เราเอาลูกเต๋ามากางออกให้เขา
เห็นว่าด้านต่างๆมีรูปอะไรบ้าง แล้วประกอบกลับเข้าไปใหม่ เมื่อโยนเต๋าออกหน้านี้แล้ว
ด้านบนควรเป็นรูปใดเป็นต้น
• กระดุมและลูกปัดสีต่างๆ ใช้สอนอนุกรมแถวเดียว
เราก็เรียงลูกปัดตั้งโจทย์แล้วให้ลูกเรียงตามให้เหมือนก่อน หรือ ให้ร้อยใส่เอ็นฝึกกล้ามเนื้อไปด้วยก็ได้
เมื่อทำได้คล่องดีก็เพิ่มความยาก โดยเรียงแล้วเว้นว่าง xoexo…x…e, …o แบบนี้ค่ะ
ผลัดกันตั้งโจทย์ ผลัดกันตอบสนุกดี เพราะตอนลูกตั้งโจทย์ลูกก็ต้องคิดผลสัมฤธิ์ของคำตอบก่อนได้คิด 2 ชั้นเลย
ขอบคุณภาพจาก www.nine.th เพราะของกานต์ไม่อยู่แล้วค่ะ
• อุปกรณ์ในห้องครัว
สอนคณิตศาสตร์เรื่องชั่ง, ตวง, วัด, ปริมาตรความจุของภาชนะต่างๆ หน่วยช้อนชา ช้อนโต๊ะ กรัม มิลลิกรัม กิโลกรัม เป็นต้น
ให้ลูกเล่นตวงน้ำสำหรับแก้ปัญหาโจทย์ปริมาณ-ระดับน้ำในภาชนะรูปทรงต่างๆ
วิธีเล่น ก็หาขวดแยม ขวดกาแฟ สารพัดขวดมา ใส่น้ำแล้วให้ลูกทายดูว่าขวดไหนมากกว่า/น้อยกว่า (ควรหยดสีลงในน้ำทำให้ดูง่าย)
ให้ลูกอ่านสูตรอาหารต่างๆและจัดเตรียมส่วนผสม เขาจะรู้จักหน่วยตวงและได้ลองปฏิบัติจริง ง่ายสุดก็เริ่มจาก “แพนเค้ก” ค่ะ
สนุก ได้เรียนรู้ และอร่อยด้วย ระหว่างทำอย่าลืมสอนความรู้รอบตัวให้ลูกได้รู้จักชื่ออุปกรณ์ต่างๆในครัว ครก กะทะ หม้อ เขียง ฯลฯ
และคำกริยา เช่น คน หั่น สับ ซอย เฉือน ตำ ฯลฯ ซึ่งมีโจทย์คำถามประเภทนี้มากมายในหนังสือติวเชาวน์ต่างๆ
• ร้านขายผักผลไม้ & ร้านขายขนมไทย
วันนึงนั่งติวอยู่ปรากฏว่าลูกไม่รู้จักหัวปลี ok เราได้เวลาไปตลาดกันแล้วไปรู้จักผักต่างๆกันอันไหน หัวปลี, ถั่วพู, เผือก, มะเขือพวง,
บวบ,ฟักทอง ให้ได้สัมผัสตาดู มือจับ จมูกดม เพราะบางทีเขารู้จักเมื่อมันปรุงเสร็จอยู่ในจานอาหารแล้ว แต่หน้าตาเป็นอย่างไร
ตามธรรมชาตินั้นเด็กๆก็อาจไม่คุ้นเคย เตรียมพร้อมสำหรับคำถามประเภทอะไรต่างจากพวก?
พวกขนมไทยที่ห่อใบตองน่ะค่ะ เช่น ข้าวต้มมัด ขนมใส่ไส้ เด็กๆไม่ค่อยรู้จักชื่อ เจอรูปภาพในข้อสอบจะงง
• ไม้บล็อคลูกบาศก์ กล่องหลายๆเหลี่ยม
สำหรับเรียนเรื่องกล่อง นี่ก็หากล่องมาแกะนับด้านพิสูจน์กันเลย เพราะดูโจทย์ในแบบฝึกหัดแล้วมันงงลูกไม่เข้าใจ
พอฉีกกล่องจริงๆให้ดูแล้วเทียบกับโจทย์ในแบบฝึกหัด ทีนี้กระจ่างเลยค่ะ
เราสอนลูกได้ตลอดเวลาจากสิ่งรอบๆตัว อย่ายอมแพ้ค่ะ ทนพูดปากเปียกปากแฉะพร่ำสอน พร่ำบอกทุกสิ่งที่เราทำในชีวิต
ประจำวันให้เขาเรียนรู้ เพราะข้อสอบสาธิตส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของประสบการณ์ในเรื่องรอบๆตัวเราง่ายๆให้ตกม้าตายนี่เอง
ติวไปติวมา ทั้งโหดทั้งฮาเหนื่อยกันไปทั้งคู่..โอ เด็กเข้าป.1 ต้องมีความรู้ในหัวมากกันขนาดนี้เลยหรือเนี่ย...คุณพ่อแอบบ่น
แต่แม่จะไม่ยอมแพ้หรอกลูก จะต้องบิวท์อารมณ์ให้ลูกสนุกสนานที่จะติวต่อและมีไฟที่จะไปสอบอยู่เสมอ ช่วงหลังๆเค้าก็มีบ่น
“ลูกเบื่อโจทย์อนุกรมแล้ว ไม่อยากทำแล้ว” น่าเห็นใจมากเราเองทำโจทย์ประเภทรูปหมุน รูปพลิกพวกนี้เยอะๆยังปวดหัวเลยนะ
ไม่เป็นไรเบื่อโจทย์ในแบบฝึกหัดก็มาเล่นอนุกรมจากของเล่นกระดุมแทนแล้วกัน..อิอิ
ทำตารางวัดผลการเรียนรู้
อ้อยใช้การประเมินผลจากการทำแบบฝึกหัดของลูกค่ะ โดยแบ่งง่ายๆเป็น 3 ระดับ เพื่อกำหนดทิศทาง การเรียนการสอนให้
รอบรู้ครบรอบด้าน คล้ายๆเป็นเช็คลิสว่าเรื่องใดเป็นจุดอ่อนที่ต้องเน้นย้ำอธิบายเพิ่มเติม ดังนี้
ระดับ 1=A เรื่องที่ชัวร์ผ่านได้ลูกเข้าใจดีแล้ว
ระดับ 2=B เรื่องที่เข้าใจปานกลาง ยังมีผิดพลาดอยู่
ระดับ 3=C อันนี้จุดอ่อนที่ต้องเน้นย้ำอธิบายเพิ่มเติม
เพื่อนๆผู้ปกครองก็อาจจะทำให้ละเอียดกว่านี้ก็ได้นะคะ
วันไปซื้อใบสมัครสาธิตเกษตร
บอกแล้วว่าถ้าเราตั้งใจจะสอบ ขอให้ตั้งใจเต็ม 100 ทุกขั้นตอน เพราะเราไม่รู้ว่าคะแนนจะเบียดกันมากแค่ไหน ถ้ามีเด็กได้คะแนน
เท่าลูกเราเป๊ะๆสัก 50 คน แล้วใครสมควรจะได้ที่นั่งนั้นไปล่ะ ดังนั้นสำหรับครอบครัวเราการแข่งขันเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ไปซื้อใบสมัครแล้วค่ะ
...เวอร์ไปมั้ยเนี่ย
ถึงแม้จะเปิดขายหลายวันแต่แม่น้องกานต์ขอไปซื้อในวันแรกประมาณ 9 โมงเช้า เพราะอย่างน้อยก็อาจเป็นส่วนหนึ่งที่เราแสดง
ความตั้งใจมาสอบ ผู้คนไม่มากอย่างที่คาดไว้ แต่ใบสมัครก็ขายไปแล้วประมาณ 400 ใบ ก็ไม่ทราบว่ามี รร.ติวใดฝากซื้อไปให้เด็ก
เป็นล็อตหรือไม่ แต่คุณครูที่ขายใบสมัครก็ดูจะระมัดระวังในเรื่องนี้เพราะพยายามพูดกับคนที่ต้องการซื้อมากกว่า 2 ใบว่า ซื้อไปให้ใครคะ?
ควรให้ ผปค.ของเด็กมาซื้อเองนะคะ จะได้สอบถามอาจารย์เผื่อไม่เข้าใจวิธีกรอกเอกสาร อีกอย่างที่เคยได้ยินรุ่นพี่แนะนำมาคือถ้าเด็ก
ได้นั่งสอบใก้ลๆเพื่อนที่รู้จักกันก็มีโอกาสจะเสียสมาธิเพราะมัวเล่นกันได้นะคะ
ที่จุดขายใบสมัครจะมีตัวอย่างการกรอกเอกสารทุกชนิด, สิ่งที่ควรเตรียมตัวในวันสอบ และกำหนดการต่างๆแสดงไว้ให้ดู
ขอให้จดมาหรือถ่ายรูปเก็บมาไว้ดูประกอบค่ะ เพราะตอนจะกรอกจริงๆมันตื่นเต้นไปหมดกลัวเขียนผิด...
เมื่อกลับมาเราอ่านเอกสารสมัครสอบทุกใบหลายรอบจนเข้าใจก่อนลงมือกรอก บางเอกสารห้ามพับ, ห้ามตัดออกจากกันโปรดดูให้ดีนะคะ
ป้องกันการตกม้าตายด้วยเรื่องง่ายๆ...หรือวิตกจริตกันแน่นะเนี่ย
ลงมือกรอกใบสมัครและเอกสารทุกแผ่นแบบตั้งใจสุดๆอีกเช่นกัน ในเอกสารจะมีให้เด็กเซ็นต์ชื่อเอง 1 แห่งด้วยนะคะ
ใครจะรู้อาจจะชนะกันตรงใบสมัครก็ได้นี่นา จัดเตรียมเอกสารประกอบที่จำเป็นในการสมัครและรูปถ่ายให้พร้อม
(อ้อยถ่ายเอกสารสมุดพกของลูกเก็บไว้ทุกเทอม นี่เป็นหลักฐานแสดงการเรียนที่ใช้ยื่นสมัครสอบได้นะคะ เพราะเพื่อนผปค.
เคยมาปรึกษาว่า สมุดพกยังไม่ออกใก้ลจะถึงวันสมัครแล้ว แต่ไม่อยากไปขอหนังสือรับรองจาก รร.เดิมเลยเกรงว่าถ้าสอบไม่ได้
ต้องกลับไปเรียนที่เดิมจะมีผลกับลูก)
สำหรับรูปถ่ายเราคิดว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญมาก (อีกแล้ว) ก็โหงวเฮ้งดีมีชัยไปกว่าครึ่งไงคร้า คิดดูเล่นๆนะถ้ารูปลูกเราหน้าตา
ง่วงนอน ดูเครียด แววตาไม่สดใสคงไม่เหมาะ ดังนั้นตอนถ่ายรูปก็กำกับกันสุดฤทธิ์ ปล่อยมุกฮาหลอกล่อลูก และขอช่างเลือกรูปเอง
ก่อนอัด ยังคิดว่าถ้าไม่ดีจะยอมหาร้านถ่ายใหม่ โชคดีว่าเทคเดียวผ่าน
รูปที่ใช้ต้องเป็นรูปเดียวกันทั้งหมดในทุกๆเอกสาร ดังนั้นถ้ามีรูปไม่พอไปถ่ายใหม่เถอะค่ะ เพราะตอนยื่นสมัครถ้าอาจารย์ไม่รับ
ใบสมัครเกมส์ก็จบทันที จะให้วิ่งไปถ่ายรูปใหม่หน้ามหาวิทยาลัยก็คงวุ่ยวายเพราะวันสมัครเค้าไม่ต้องเอาเด็กไปด้วย แต่บางคน
ก็พาลูกมาวิ่งเล่นรอ ผปค.ที่สนามถือโอกาสทำความคุ้นเคยกับสถานที่
ถึงวันสมัครก่อนนอนเช็คเอกสารทั้งหมดอีก 2 รอบ เพราะพรุ่งนี้ต้องยื่นใบสมัครรอบเช้า อย่าลืมไปก่อนเวลาเพราะอาจารย์จะเรียก
ตามคิวค่ะ วันนี้ที่หอพระหน้าโรงเรียนจะเต็มไปด้วยดอกไม้ธูปเทียน และขนมต่างๆ อ้อยก็ไม่ได้เตรียมสิ่งใดมา จึงยกมือไห้วที่หอพระ
ของรร.สาธิต และที่อนุสาวรีย์ท่านหลวงสุวรรณ ใน มก. ว่า “เราเป็นศิษย์เกษตรที่รักสถาบันคนนึง เราอยากให้ลูกเรียนที่นี่เช่นกัน
ถ้าน้องกานต์มีความรู้ มีบุญพอก็ขอให้ท่านรับเข้ามาเป็นศิษย์ด้วย” แอบใช้สัจจะอธิฐานนิดนึง แต่ในใจพ่อแม่และญาติๆก็แอบมั่นใจ
ว่าจากความรู้ที่อยู่ในตัวเขาลูกต้องทำข้อสอบได้แน่ๆ ขอเพียงวันนั้นองค์ลง สมาธิมา โชคเข้าข้างเราบ้างเท่านั้นเอง
นักกีฬาลงสนาม
คืนก่อนสอบให้ลูกเข้านอนเร็ว และเตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมเพื่อให้สะดวกที่สุดในตอนเช้า ทราบมาว่าปีก่อนอากาศร้อนมากๆ
สวมชุดไปรเวศไปสอบ เลือกใส่เสื้อผ้าที่ลูกสบายตัวที่สุดนะคะ ไม่ต้องหล่อ/สวยมากจนลูกร้อนและคันนะคะ ฝ่ายแม่ก็เตรียมพัด,
ขนม, น้ำและหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะเล่มใหม่ไปด้วย “เผื่อต้องรอนานๆลูกจะได้ยังอารมณ์ดีอยู่นะ” ส่วนบรรดาเครื่องเขียน
อุปกรณ์การสอบใดๆไม่ต้องนำไปค่ะ ครูแจกปากกาแดงให้ใช้ทำข้อสอบ ฝึกลูกให้กากบาทให้เต็มช่องเป็นใช้ได้
วันนี้ก็เตรียมใจมาแล้วว่าคงเป็นวันที่วุ่นวายมากๆ จึงขอให้คุณตาช่วยขับรถไปส่งเพื่อเราจะได้ไม่กังวลเรื่องหาที่จอดรถ พอสอบ
เสร็จก็กลับ taxi กันเองสบายดี เมื่อไปถึงเขตโรงเรียนรถก็ติดยาวจริงๆ โอ..พระเจ้าทำไมผู้คนมากมายเช่นนี้เนี่ย ถือโอกาสบิวท์
อารมณ์บอกลูกว่า “เห็นไหมมีเด็กๆอยากเข้ามาเรียนที่นี่ตั้ง 4 พันกว่าคน ถ้าลูกอยากเรียนที่นี่วันนี้จะต้องตั้งใจฟังคุณครูพูดให้ดี”
เมื่อเดินหาเต้นท์หมายเลขห้องของเราเจอแล้ว จอมซนก็ขอไปวิ่งเล่นในสนามก่อน (เด็กน้อย ตื่นเต้นเพราะไม่เคยเจอสนาม
ฟุตบอลใหญ่ขนาดนี้ รร.เดิมมีแต่สนามปูน) เผลอแป็บเดียวยังไม่ทันถึงกำหนดเวลาที่จะพาเด็กขึ้นห้องสอบเลยครูพี่เลี้ยงก็มาที่เต็นท์
และเริ่มขานชื่อเด็กเข้านั่งเรียงเลขที่แล้ว อ้าวกล้วยทอดซะแล้วซิ..ลูกชั้นอยู่ไหนเนี่ย!! รีบไปตามมาเล่นซะเหงื่อซิกเลย
ต้องเข้าไปนั่งรอในเต้นท์นานมาก ซึ่งจัดเก้าอี้ไว้พอดีกับจำนวนเด็กที่สอบในห้องนั้นๆ ผปค.ก็พากันยืนมุงให้กำลังใจลูกหลานอยู่รอบๆ
ซึ่งบังลมจากทุกทิศทาง สงสารเด็กๆที่นั่งร้อนอยู่ข้างในจัง เมื่อต้องแยกกับลูกก่อนกำหนดอย่างนี้เลยไม่ทันได้เตือนสติลูกเล้ย...555
แม่แทรกตัวเข้าไปยื่นหนังสือขายหัวเราะให้ ลูกก็ยิ้มออกมาได้และเข้าสู่ภวังค์ในโลกส่วนตัวของเขาไปลืมเรื่องร้อน เรื่องรอไปได้
ถึงเวลาขึ้นห้องเด็กๆก็ตั้งแถวเรียงตามเลขที่ ว่าแล้วลูกเราเป็นคนสุดท้ายของห้องจริงๆแล้วจะได้ยินครูอ่านข้อสอบไหมเนี่ย งานนี้
แล้วแต่ดวงแล้วหล่ะ เอาเถอะ..เมื่อเราอยากเรียนที่นี่ อยากมาสมัครสอบเข้ารร.เขาแล้ว เราก็ต้องยอมรับกติกา วิธีการคัดเลือกและ
การตัดสินของรร. ส่วนอื่นที่อยู่เหนือการควบคุมของเราก็ปล่อยวางมันไปซะ
ส่งลูกขึ้นตึกสอบแล้ว ผปค.ก็มานั่งรอตามอัธยาศัย เจอรุ่นพี่และเพื่อน ผปค.โรงเรียนลูกก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆผ่านไปสักชั่วโมงกว่าๆ
น่าจะเป็นเวลาพักดื่มนมมีเด็กผู้หญิงคนนึงวิ่งลงมายืนเกาะเชือกร้องไห้ดังลั่นอยู่ริมสนาม (กั้นเชือกเขต ผปค.ห้ามเข้า) ลูกใครหนอ
คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่อยู่แถวนั้น เด็กยืนร้องอยู่สักพักคุณครูก็มาพากลับเข้าไป รอจนได้เวลาเลิกสอบ ผปค.ก็ต้องกลับไปนั่งรอที่เต้นท์
หมายเลขห้องสอบของลูก เพื่อรอเรียกให้ไปรับเด็กทีละห้อง
พอเห็นหน้าลูกดูเหมือนทุกครอบครัวจะถามเหมือนกันเลย เป็นไงลูก? ยากไหม? ทำได้ไหม? ครูถามอะไรบ้าง? เราก็อดไม่ได้
เช่นกัน..แทรกตัวมาหาที่ว่างๆได้ก้มลงไปยังไม่ทันจะถาม ลูกเห็นหน้าเราก็คงจะรู้รีบพูดซะก่อนเลย “ลูกนั่งคนสุดท้ายแถวหลังห้อง
ได้นั่งริมหน้าต่างด้วย” ..โอลางร้ายมาแล้ว ได้ทำเลดีมากๆเลยลูก “ห้องอยู่สูงลูกดูวิวเพลินที่ต้นไม้มีกระรอกด้วยครับ
ไม่ค่อยได้ฟังครูเลยมั่วๆไปหลายข้อ มองมาเห็นเต้นท์ด้วยนะแต่ลูกไม่เห็นคุณแม่เลย
ฯลฯ อีกมากมาย” ...เหรอลูก แม่หมดแรงพูดไม่ออกเลยจนเดินมาถึงหน้ารร. ก็หัวใจหล่นไปตั้งแต่หน้าตึกแล้ว อืมเอาเถอะช่างมัน
ตอนนี้ลูกก็เล่นได้ตามสบายไม่ต้องติวอีกแล้ว ส่วนแม่...หมดหวัง
กลับมาพักผ่อนให้หายเเนื่อยหายเซ็ง แล้วก็เริ่มตะล่อมถามว่าข้อสอบถามอะไรบ้าง ที่ติวไปมีอะไรออกมั้ย คำตอบส่วนใหญ่คือ ไม่มี
ไม่มี ไม่มี และจำไม่ได้ เฮ้อ..ข้อสอบไม่ออกแบบที่ติวมาเล้ย แล้วมันสอบอะไรกันบ้างล่ะเนี่ย หลังจากเข้าเครื่องทรมาน แม่ก็รีดคำถาม
ในข้อสอบออกมาได้ 6 ข้อค่ะ
1. มีบล็อคเรียงต่อกันอยู่จำนวนหนึ่ง ถามว่าถ้าต้องการทำให้เป็นบันได 3 ชั้น ต้องใช้บล็อคอีกกี่อัน?
2. คนๆหนึ่งว่ายน้ำวันแรก 2 รอบ วันที่สอง 4 รอบ วันที่สาม 6 รอบ วันที่สี่ 8 รอบ ถามว่าวันที่ 5 จะว่ายได้กี่รอบ?
และถ้าเริ่มว่ายวันแรกในวันอังคารวันที่ 5 จะตรงกับวันอะไร?
3. ถ้านักเรียนมีเงิน 20 บาท จะซื้ออะไร? คำตอบมีรูปขนมและราคากำกับไว้
4. มีเหยือกน้ำให้ 1 ใบ ถามว่าต้องใช้น้ำภาชนะในข้อไหนจึงจะรวมกันแล้วได้ปริมาณเท่ากับน้ำในเหยือก?
(เรื่องเหยือกน้ำนี้มีหลายคำถาม แต่กานต์จำได้ข้อเดียว)
5. มีรูปมือซ้าย-ขวาและผลไม้อยู่ระหว่างมือ ประมาณนี้ x c m e o มีหลายคำถาม เช่น
ผลไม้ชนิดใดอยู้ตรงกลาง? , ผลไม้ชนิดใดอยู่รองจากผลไม้ชนิดแรก?
6. ให้แผนที่ชุมชนมา ถามว่าถ้าต้องการเดินจากจุดหนึ่ง ไปยังอีกจุดหนึ่งต้องเดินผ่านถนนกี่สาย?
ข้อสอบสาธิตเกษตรนอกจากมีความรู้แล้ว เด็กๆต้องมีสมาธิ ในการฟังด้วย เพราะเด็กๆไม่เห็นโจทย์คำถาม เห็นแต่ตัวเลือกของ
แต่ละข้อในสมุดคำตอบให้กากบาท (มีสมุดคำตอบ 2 เล่ม เล่มละ 30 ข้อ)โชคดีที่น้องกานต์อ่านหนังสือออกจึงเลือกคำตอบ
ได้แม่นยำขึ้น หากฟังครูอ่านโจทย์ไม่ทันไปบ้างก็ยังพอเดาจากกลุ่มคำตอบได้ ( แม่สอนวิธีตัดช้อย ตัวเลือกที่ไม่เข้าพวกให้
กรณีฉุกเฉินที่ไม่รู้คำตอบจริงๆ จะได้เดาได้ใก้ลเคียงขึ้น ) และมีการคิดวิเคราะห์
ดังนั้นการเล่านิทานก่อนนอนทุกคืนแล้วตั้งคำถามจะช่วยได้ อยากสอนลูกเรื่องอะไรเราก็แต่งเรื่องขึ้นมาเองบ้างก็ได้ เช่น
แต่งเรื่องลูกหมีตัวหนึ่ง เดินเข้าไปในสวนเจอผลไม้ต่างๆ อาจมีกล้วย, ขนุนและมะละกอ เดินต่อไปเจอคุณยีราฟขอกลัวยไป
แล้วให้องุ่นมาแทน แล้วก็เดินต่อไป..บลา บลา บลา...จนจบเรื่อง แล้วถามว่าลูกหมีเหลือผลไม้อะไรกลับบ้าน
* โปรดระวัง นก ผึ้ง กระรอก ที่จะมากวนสมาธิ ทดสอบจิตใจเด็กๆเวลาสอบค่ะ
วันชี้ชะตามาถึง
ญาติๆชวนกันไปเที่ยวหัวหินกลับวันที่ประกาศผลสอบพอดีเลย เราก็คิดว่าคงไม่ติดแน่ๆโอกาสน้อยมากจนไม่หวังจึงไม่รีบร้อน
เที่ยวเล่นตามสบายวันพรุ่งนี้ค่อยไปดูก็ได้ ปรากฏว่าถึงกรุงเทพเร็วกว่าที่คาดไว้ ก็เลยขับรถไปดูซะหน่อยไปถึง รร.ประมาณเกือบ
5 โมงเย็น ลูกเพลียหลับอยู่ในรถจึงเป็นหน้าที่แม่เป็นคนลงไปลุ้นผลสอบที่บอร์ด ชื่อลูกเรา ก.ไก่ ซะด้วย ถ้าติดก็ต้องเห็นได้ง่ายๆ
และถ้าไม่ติดก็รู้ผลเร็ว...ตื่นเต้นจัง เย็นมากแล้วแต่ยังมี ผปค.อยู่ในบริเวณบอร์ดกันพอสมควร
โอ!!มีชื่อ ด.ช. กานต์ อยู่บนบอร์ดจริงๆแม่ดูจนแน่ใจอยู่นานว่านามสกุลไม่ผิดนะ กว่าจะเดินกลับไปบอกข่าวดีให้คนที่ลุ้นอยู่ในรถได้เฮ
ปลุกลูกขึ้นมาดูชื่อตัวเอง และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกแบบโทรมๆดำๆ เพราะเพิ่งกลับจากทะเล
ในที่สุดความพยายามของเราเป็นผลสมกับที่ได้ทุ่มเทกันมาลูกทำได้จริงๆ รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ลูกได้เรียนที่นี่แล้วนะครับ
คุณแม่น้องกานต์คือ ดิฉันเป็นหนึ่งท่านที่อยากให้ลูกเข้าสาธิตเกษตรคะ แต่ว่าน้องยังเล็กอยู่นะคะ แค่1.6 คะ
เลยอยากถามคุณแม่ว่า " คุณแม่คิดว่าแนวการออกข้อสอบในช่อง 3-4 ปี ข้างหน้าจะเปลี่ยนไปไหมคะ หนังสือที่คุณแม่แนะนำจะยังสามารถใช้เป็นแนวได้อีกไหมคะ
อยากสอบถามจากประสบการณ์ที่คุณแม่เป็นผู้สืบค้นมากมายคะ ขอบคุณล่างหน้านะคะ
สาธิต มศว องค์รักษ์ อ่านรายละเอียด
http://www.webboard.karn.tv/index.php/topic,42788.0.html
เรื่องการ เตรียมพร้อม ในการ สอบ สาธิต ต่างๆ
ลองอ่าน รายละเอียดตรงนี้ดูว่า เขาเตรียมพร้อม อย่างไร
http://www.webboard.karn.tv/index.php/topic,35983.0.html
ในความคิดผมนะ
จำนวนนักเรียน ที่ พ่อแม่ติวเอง โดยไม่ได้ไปติวที่อื่น แล้วสอบได้ มี แต่น้อยมาก ไม่เกิน 10 คน
ถ้ามีงบประมาณ แนะนำ ควรไปติว แล้ว นำแบบฝึกหัดเหล่านั้นมา ฝึกฝนทุกวัน ฝึกฝนประมาณ 1 ปี
แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ ตัวเด็กด้วย ว่าให้ความร่วมมือ ในการ ฝึกฝน มากน้อย
ตัวอย่างเช่น
1.เด็กบางคนไม่ค่อยสนใจ พ่อแม่ก็จนปัญญา
2. พ่อแม่บ้างคน ต้องเอา สิ่งอื่นมาล้อ เช่น ถ้าทำแบบฝีกหัด 1 บท จะได้ 1 ดาว
ครบ 10 ดาว นำมาแลกของขวัญ
3. แต่เด็กทีติดแน่ๆ คือ มีระเบียบวินัย ทำแบบฝึกหัด พร้อม พ่อแม่ ทุกวัน เวลา 18.30- 20.00
www.karn.tv สื่อการสอนระดับ อนุบาล - ประถมต้น (ช่วงชั้นที่ 1) รวมแบบฝึกหัด ตัวอย่างข้อสอบ กิจกรรมเพิ่มทักษะ ข้อมูลการศึกษา โรงเรียน |
แม่น้องกานต์คะอยากทราบว่าลูก พ่อ แม่ จำเป็นต้องอยู่ทะเบียนบ้านเดียวกันหรือเปล่าคะ ในการสมัครสาธิตเกษตร เพราะตอนนี้ พ่อ แม่่ ลูก อยู่คนละทะเบียนบ้านนะคะ อ่านในใบสมัครแล้วไม่แน่ใจนะคะ