รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่
ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่
พลาสติก ภัยร้ายใก้ลตัวลูก
เมื่อเอ่ยคำว่า “พลาสติก” ในยุคนี้แทบจะไม่มีใครต้องมาถามกันอีกแล้วว่ามันคืออะไร? ...เพราะตั้งแต่เช้ายันเข้านอน ใครๆก็ต้องพึ่งพาภาชนะสารพัดอย่างที่ทำด้วยพลาสติก ตั้งแต่แปรงสีฟัน-ขัน อาบน้ำ-จานกินข้าว-ถ้วยน้ำ -ขวดน้ำดื่ม- ขวดนมลูก ฯลฯ ทุกวันนี้เราจึงคุ้นเคยกับมันดังเพื่อนสนิท กระทั่งนึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าเพื่อนคนนี้...จะนำพิษร้าย และ ความตาย...มาให้...! ข้อมูลอันชวนช็อกเริ่มจาก มหาวิทยาลัย เยล ในสหรัฐอเมริกาออกมาแฉผลวิจัยล่าสุดว่า สารที่มีชื่อว่า Bisphenol A หรือ BPA เป็นสาเหตุที่ทำลายเซลล์สมองของลิงในห้องทดลอง ทำให้เจ้าจ๋อตัวนั้นความจำเสื่อม อารมณ์แปรปรวนและเป็น มะเร็งต่อมลูกหมาก! แม้แต่ใส่สาร BPA ในปริมาณที่ อย.อเมริกา (FDA ) ยืนยันว่าปลอดภัย ก็มีผลร้ายต่อสมองลิงเช่นกัน ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เจ้าสารมหันตภัยตัวนี้มีอยู่ใน..พลาสติก พลันที่ผลวิจัยนี้ตูมตามออกมา ทางด้านผู้ผลิตขวดนม ขวดน้ำรายใหญ่ รายย่อย ต่างก็ดาหน้าออกมาโต้แย้งกันกระหึ่มว่า...เชื่อถือไม่ได้ ไร้สาระ และไม่มีหลักฐานใด ๆ ว่ามีผลต่อมนุษย์ แถมยังยันกลับด้วยผลการศึกษาในอีกบางสำนักทั้งจากสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่นที่ชี้ว่าขวดพลาสติกโพลีคาร์บอเนทที่มีส่วนผสมของบีพีเอในปริมาณ เล็กน้อยนั้นมีความเป็นพิษต่อสัตว์ แต่ไม่ทำลายสุขภาพของคน แต่รัฐบาลแคนาดามิได้คิดเช่นนั้น รัฐบาลได้เร่งออกกฎหมายห้ามผสมสาร BPA ลงในภาชนะของเด็กโดยเด็ดขาด หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์แคนาดา ค้นพบว่าเจ้าสารบีพีเอ มันก่อให้เกิดพิษร้ายต่อคนโดยเฉพาะมีอันตรายต่อเด็กแรกเกิด เด็กทารก และสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลแคนาดา จึงจะมีมาตรการเข้ม ให้ต้องลดการใช้สารนี้โดยด่วน เช่น เลิกใช้ขวดโพลีคาร์บอเนท ให้ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆดังๆทั้งหลายเก็บอาหารที่บรรจุในภาชนะที่มีส่วนผสม ของไบสฟีนอล เอ(บีพีเอ) ขวดและแก้วพลาสติกออกจากชั้นจำหน่ายสินค้าซะให้เกลี้ยง นาย เนียล แมคลัสกี นักวิจัยมหาวิทยาลัยกูเอลฟ์ นครโตรอนโตได้ เปิดเผยว่า โรงงานทำขวดพลาสติกทั่วโลกต่างก็ใช้ สารคมีไบสฟีนอล เอ.เป็นส่วนประกอบสำคัญทั้งๆที่มันมักจะละลาย หรือซึมแทรกปนอยู่ในอาหารแข็ง,เหลวหรือน้ำดื่มที่ บรรจุอยู่และเมื่อกินหรือดื่มเข้าไป มันจะก่อกวนระบบการสื่อสารระหว่างหน่วยประสาทของสมอง มีผลเสียหายต่อความจำและความเข้าใจ Bisphenol A ก็คือ คือสารพิษ ที่หากสะสมอยู่ในร่างกาย จะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศ ESTROGEN จึงทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ เช่น สมาธิสั้น,ก้าวร้าว. มีปัญหาเรื่องความจำ,สมองพัฒนาการช้า เป็นโรคอ้วน, โรคเบาหวาน อาจเป็นสาเหตุของโรคเอ๋อ(ดาวน์ซินโดม)และกระตุ้นเซลล์มะเร็ง ทำให้เป็นโรคมะเร็ง และ ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานบกพร่อง(impaired immune function) 1. เลือกใช้ขวดแก้วเพื่อใส่นม ใส่น้ำดื่ม เช่นเดียวกับจานชามใส่อาหาร ให้ใช้ภาชนะที่เป็น แก้วเช่นกัน หรือ เป็นสแตนเลส(Stainless steel) เป็นเซรามิค, กระเบื้องเคลือบ (Porcelain) ชาม จาน ถ้วย หรือขวดนม เป็นพลาสติกที่ระบุไว้ว่า Non-Polycarbonate ก็ใช้ได้ครับ 2. ต้องหลีกเลี่ยง ภาชนะพลาสติกมีคำย่อว่า PC หรือ พลาสติกเบอร์ 7 ซึ่งเป็นคำย่อยของ Polycarbonate ต้องหลีกเลี่ยงภาชนะ PVC หรือ พลาสติกเบอร์ 3 3. ไม่ควรอุ่นอาหาร หรืออุ่นนมในภาชนะพลาสติกทุกประเภท ไม่ควรนำขวดพลาสติกไปแช่แข็ง 4 .ไม่นำขวด PETมาใช้ซ้ำ ( ขวดPET เป็นคำที่ใช้เรียกขวดพลาสติกทั่วๆไป เช่นขวดน้ำดื่ม เพราะมันผลิตจาก Polycarbonate หรือ PET (Polyethyleneterephthalate ) 5 . อาหารกล่องแช่แข็งทุกวันนี้เป็นที่นิยม เพราะแค่เอาเข้าไมโครเวฟทำร้อน แป๊บเดียว ก็ยกมาหม่ำกันได้แล้ว แต่อย่าลืมนะครับว่า อาหารกล่องโดยมากแล้วทำด้วยพลาสติก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสบายใจ จึงควรเทอาหารใส่จาน-ชามแก้วแล้วค่อยนำไปเวฟนะครับ ภัย-พลาสติกนอกจากจะแทรกซึมอยู่ในขวดน้ำขวดนม ถ้วยชามแล้ว มันยังแฝงตัวอยู่ในของเล่นเด็กอีกด้วย!... เปรียบดัง ภัยเงียบ ที่คุกคามเด็กๆอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งต้องรับพิษร้ายสะสมอยู่ในร่างกายทุกวันๆๆๆ นั่นก็คือ ... ของเล่นที่ปนเปื้อนสารตะกั่ว... ทั้งที่ไม่มีเครื่องหมาย มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) และมีมอก.(ปลอม)เป็นที่รู้กันอยู่ว่าอันตรายของสารตะกั่วนั้น มันสุดคณานับแค่ไหน ทั้งเป็นสารพิษที่ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายได้ และสะสมอยู่ในอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ไต หัวใจ สมอง กระเพาะอาหาร ไขกระดูก ทําลายระบบประสาท เกิดอัมพาตที่นิ้วเท้าและมือ ทําลายเซลล์สมองหลอดเลือดฝอย อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ฉุนเฉียว จะมีอาการปวดหัว มึนงง สับสน ความจําเสื่อม ปวดกล้ามเนื้อ โลหิตจาง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เกิดการตกเลือด เกิดอาการเพ้อ ชัก เป็นอัมพาต หมดสติ และถึงตายได้ ที่น่าห่วงยิ่งก็คือ เด็กๆที่มีอายุตํ่ากว่า 6 ขวบ อาจจะเกิดความผิดปกติ ในการพัฒนาทางด้านภาษาและมีความบกพร่องในการใช้สายตาและมือ และที่น่าเป็นห่วง ยิ่งกว่านั้น ก็คือ ...จากการสำรวจและตรวจสอบของ ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและ ป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า ...ในขณะที่ ระดับค่าความปลอดภัยตามมาตรฐานกำหนดของสารตะกั่ว อยู่ที่ 600 มิลลิกรัม/กิโลกรัม แต่มีของเล่นมากมายหลายชิ้น อันเป็นที่สุดนิยมและมีวางขายกันเกลื่อนกลาด ทั้งตามแผงลอยในตลาดนัด ร้านขายของชำและบนห้างใหญ่โต.. ล้วนแต่อุดมไปด้วยสารตะกั่วที่เกินค่ามาตรฐานอย่างน่ากลัวที่สุด... เช่น หน้ากากมาสก์ ไรเดอร์ มีระดับค่าตะกั่ว 24,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม รถแข่งขนาดเล็ก มีระดับค่าตะกั่ว 15,200 มิลลิกรัม/กิโล กรัม ลูกบอลพลาสติก มีระดับค่าตะกั่ว 3,397 มิลลิกรัม/ กิโลกรัม จริงๆแล้วกฎหมายบ้านเรานั้นมีบทลงโทษหนักพอดู สำหรับ ผู้นำเข้าและผู้ค้าของเล่นอันตรายดังกล่าว นั่นก็คือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ค้าจะมีโทษปรับ 5,000 บาท แต่ที่น่าพิศวงงงวยเป็นอย่างยิ่งก็คือ เหตุใดทุกวันนี้บรรดาของเล่นพลาสติกมหาภัยยังเห็นมีวางขายกันเกลื่อนเหมือน เดิม เหมือนบ้านเมืองไร้ขื่อแป ผู้ดูแลไร้น้ำยา เหมือนคิดกันง่ายๆว่า...ลูกหลานใครก็รับผิดชอบกันเอาเองก็แล้วกัน ที่มา : ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ขอขอบคุณ : http://www.csip.org |
www.karn.tv สื่อการสอนระดับ อนุบาล - ประถมต้น (ช่วงชั้นที่ 1) รวมแบบฝึกหัด ตัวอย่างข้อสอบ กิจกรรมเพิ่มทักษะ ข้อมูลการศึกษา โรงเรียน |