เมื่อก่อนหน้า ที่นัตสึจะมาเข้าเรียนที่รร.สาธิตเกษตรพหุภาษานี้ นัตสึ เคยได้มีโอกาสเข้ามาวิ่งเล่นใน. รร. ตั้งแต่ตัวเล็กๆ พอเรียนจบอนุบาล 3 จาก อนุบาลเจริญพงศ์ก็เดินตามรอยพี่เอมิเข้ามาเป็นลูกศิษย์ของรั้วเขียว -ม่วง แห่งนี้ เป็นความสุขยิ่งนักของทั้งสองสาว เอมิในฐานะศิษย์พี่มีหน้าที่คอยบอกนัตสึว่าอะไรที่ทำได้ หรือทำไม่ได้บ้าง หรืออยู่ที่ รร. จะเป็นอย่างไรบ้าง.  คอยดูแลช่วยเหลือกัน.  เดิมทีเมื่อตอนนัตสึเรียนจบอนุบาล2 อายุ 5.1 ปี อาจารย์ก็บอกว่าสามารถเรียนต่อ ป.1ได้เลย น้องมีความพร้อมเพราะเขียนอ่านช่วยเหลือตัวเองได้ดี แต่คุณแม่มาคิดแล้วว่า รีบเรียนข้ามชั้นปี ไม่ค่อยดีนักเพราะว่าอายุยังน้อยไปถึงแม้ว่าจะพร้อมเรียนได้แต่ ก็คงจะไม่สู้เรียนในวัยอายุที่เหมาะสมจะดีกว่า. เลยรอจนนัตสึจบอนุบาล3อายุ6 ขวบพอดีเลย เมื่อผ่านการเรียนแบบวิชาการมาแบบเจริญพงศ์ และมีโอกาสทำกิจกรรมต่างๆมาตั้งแต่เด็กๆ การมาเรียนต่อป. 1ที่ รร. สาธิตเกษตรพหุภาษา จึงเรียกได้ว่า เรียนแบบสบายๆ ไม่ต้องกังวลอะไรมาก และเรียนได้ดี พร้อมทั้งมีความเข้าใจในบทเรียนเร็ว การปรับตัวก็เข้าได้กับเด็กคนอื่นๆแบบสบายๆ. จึงคิดว่า การมาเรียนเมื่อพร้อมทั้งวัยและพื้นฐานความรู้จะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้นัตสึมีศักยภาพการเรียนรู้เพิ่มมากขึ้น.  เพราะนัตสึชอบอ่านหนังสือและสนใจใฝ่รู้หลายๆเรื่องเช่นเดียวกับพี่เอมิ (แม้ว่าจะพูดไม่ทันพี่เอมิก็ตาม แต่ความคิดความอ่าน คำพูดคำจาก็มีหลักการไม่แพ้กัน)

     มีผู้ปกครองหลายท่านอาจจะมีความคิดว่า ถ้าเด็กเรียนไหวก็เอามาเลย นั่นก็อาจจะพอไหวในช่วงแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปหากเด็กไม่สามารถฝึกฝนตัวเองได้ทันกับการเรียนในบทเรียนที่มันเริ่มยากขึ้นในแต่ละชั้นปี จะกลายเป็นความลำบากลำบนของทั้งผู้ปกครอง ของเด็กและอาจารย์ด้วย. หากเด็กวัยยังไม่พร้อมก็ไม่น่าจะฝืนรีบเข้าเรียนจนเกินไป เพราะเรียนได้. กับเรียนดี นั้นแตกต่างกัน. เด็กบางคนที่อายุน้อย แล้วเค้าเรียนได้ดี แต่กับบางคนอาจจะทำไม่ได้ แล้วพลอยเบื่อการเรียนไปซะอย่างงั้น

      การเรียนของนัตสึในช่วง ป.1ต้องบอกว่า นับเป็นเรื่องดีที่ได้อาจารย์ประจำชั้นเป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูง ฝึกให้เด็กมีความรับผิดชอบและทำงานให้เรียบร้อย อาจจะมีเข้มงวดบ้าง หรือทำให้นัตสึหวั่นๆบ้าง แต่สุดท้ายปลายทางก็ปรากฏว่า นัตสึได้ฝึกความรอบคอบ มีความรอบคอบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด. จากเดิมเมื่อแรกเริ่มเขียนสมุดจดการบ้านพบว่า มีเขียนอักษรไม่ครบ มีตกหล่นนิดหน่อยอยู่เสมอๆ แต่หลังจากผ่านไปไม่เท่าไหร่ก็ปรับปรุงดีขึ้น ลายมือก็สวยขึ้นด้วย  มีความคิดเป็นระบบมากขึ้น

      เรื่องการเรียนทางวิชาการของนัตสึตอน ป.1 แทบไม่มีเรื่องใดต้องกังวลเลย เนื่องจากสามารถเข้าใจและทำได้ดี. จากที่ช่วงแรกมีง่วงตอนบ่ายตอนวิชาภาษาไทย พอตักเตือนก็รู้จักขออนุญาตไปล้างหน้า และไม่หลับในวิชาภาษาไทยอีกเลย(เคยหลับครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว)  ในช่วงป.1นี้ นัตสึได้ร่วมทำกิจกรรมหลายอย่างบนเวทีที่หอประชุมใหญ่ด้วย. 

ครั้งแรกคือ เป็นตัวแทนของชั้้น ป.1 มอบของขวัญให้อาจารย์

ครั้งที่ 2   เป็นตัวแทนในระดับชั้นประถมขึ้นกล่าวอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ปี2557  จำได้ว่า คุณแม่ช่วยกันเขียนบทพูด. และให้นัตสึซักซ้อมพูดอยู่หลายรอบ เนื่องจากเป็นกลอนค่อนข้างยาวและมีบทพูดต่อท้ายอีก. ซึ่ง ก็ได้รับคำชมทำให้นัตสึมีความกล้าที่จะแสดงออกมากขึ้น

นอกจากนี้ยังร่วมแสดงในงานประจำปีของ รร. ที่เวที I can do ในบรรยากาศคอนเสริต พี่น้องร้องเพลง.  คือ เอมิเล่นอะคูเลเล่ มีนัตสึกับเพื่อนๆชั้นป.1อีก3 คน เป็นนักร้อง และใช้เครื่องเคาะช่วยทำให้คอนเสริตเล็กๆแบบพี่ๆน้อง สนุกสนานน่ารักและอบอุ่น เป็นที่ประทับใจ   เด็กๆใช้เวลาช่วงเย็นซ้อมร้องเพลงกันเป็นประจำ. ถ้าหากว่าไม่มีคุณแม่ช่วยดูก็จะไปซ้อมกันเองระหว่างพี่น้องในวง. ฝึกความรับผิดชอบและความสามัคคี การทำงานเป็นทีมได้ดีเลย

ช่วงที่นัตสึเรียนป.1 มีเพื่อนสนิทต่างห้องชื่อ. ใบบัว เด็กผู้หญิงจอมแก่นตัวผอม ขาว ปราดเปรียว พูดภาษาอังกฤษเก่ง ชอบเล่นสนุกๆ ซึ่ง มาเช่าคอนโด อยู่ใกล้ๆกับนัตสึ ทำให้ใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก น่าเสียดายที่ใบบัวต้องลาออกเพราะความจำเป็นบางอย่างเกี่ยวกับระยะทางและการดูแล เลยทำให้นัตสึต้องเหงาเสียน้ำตาเมื่อไม่ได้เจอเพื่อนรักอีกแล้ว. แม้จะเป็นมิตรภาพระยะสั้นๆเพียง1ปี แต่มันงอกงามในความทรงจำ นัตสึก็ยังคงไม่ลืมใบบัว

การที่นัตสึมักจะมีเพื่อนสนิทในระยะสั้นๆอยู่บ่อยๆทำให้ ไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทที่คบกันนานเลยสักคน เพราะเพื่อนที่อนุบาลเจริญพงศ์ที่รักกันมากก็เรียนด้วยกันแค่ปีเดียวแล้วก็แยกย้ายกันไปเรียนที่รร.  อื่น. แต่ก็ยังติดต่อกันอยู่.  ดังนั้นนัตสึจึงมักจะรู้สึกระมัดระวังในการที่จะคบ จะรักจะผูกพันธ์กับเพื่อนคนใหม่ๆมากขึ้น  แถมนัตสึยังเป็นประเภท เวลารักเพื่อนคนไหนก็จะรักหมดใจและแคร์เพื่อนมาก ยิ่งถ้าได้สัญญาอะไรกับใครไว้ก็จะยึดมั่นในสัญญาและคำพูดยิ่งกว่า เมืองไทยประกันชีวิต ยังไงยังงั้นเลย คุณแม่ได้แต่หวังไว้ว่านัตสึจะมีเพื่อนรักดีๆที่เป็นเพื่อนคู่คิดของลูกสาวคนนี้แบบนานๆสักที

การเรียนในชั้นป.1นี้เป็นปีที่มีความสุขมากทั้งด้านการเรียนวิชาการและการทำกิจกรรมต่างๆภายในโรงเรียน ตอนนี้นัตสึขึ้นมาเรียนอยู่ชั้นป.2/2แล้วและมีโอกาสได้รับเกียรติบัตรของชั้นป. 1ประเภทที่1 การเรียนดีเด่น ความประพฤติดี.  (4.00). เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 57  นับเป็นความน่าภาคภูมิใจอย่างหนึ่งและเป็นก้าวแรกที่งดงามในชีวิตการเรียนของนัตสึภายใต้รั้วเขียว-ม่วง สาธิตเกษตรพหุภาษาแห่งนี้.  การเดินทางในชีวิตการเรียนยังอีกยาวไกล พยายามต่อไปและมีความสุขกับทุกๆวันนะจ๊ะนัตสึ ลูกรัก