รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่


ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่

เกมคิดราคาอาหารร้าน fast food


ป้ายโฆษณา

ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com
คุณกำลังหาหรืออยากได้อะไรใน karn.tvclick ที่นี่!

 

Blog Me!

เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!

โพสต์โดย amijung
amijung
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ ศุกร์, 25 ตุลาคม 2013
ใน บันทึกลูกรัก

เรื่องคุยของลูกตอนที่ 42 นัตซึ... หลงทาง...อีกแล้วอ่ะ

  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เป็นอุทาหรณ์เตือนใจดิฉันอยู่เสมอเวลาจะพาลูกๆไปเที่ยวไหนต่อไหนกันสามคนแม่ลูก.         ตัวเอกของเรื่องก็คงไม่แพ้นัตซึสาวจอมป่วนของดิฉัน(วัยป่วนได้ที่เลยจริงๆๆ).        นัตซึเป็นเด็กร่าเริง ฉลาด และมีความมั่นใจสูงคนหนึ่ง. ลูกมั่นใจในตัวเองและมั่นใจในผู้คนรอบข้าง.   มองโลกในแง่ดีและไม่ค่อยระวังตัว.   ยิ่งกว่านั้นคือเธอมั่นใจในตัวคุณแม่มากอีกด้วย.         เวลาที่พานัตซึกับเอมิออกไปนอกบ้านไปเที่ยวที่ต่างๆ นัตซึเดินเที่ยวชมหรือเดินดูอะไรๆ.  สงสัยอะไรก็ถามแบบโพล่งๆออกมาเลย หรือคิดอย่างไรก็วิพากษ์วิจารณ์ออกมาเลยตามประสาเด็กจนบางครั้ง เบรคลูกไว้แทบไม่ทันเลย.         ตอนนี้หากจะว่าไปลูกสองคนของดิฉันเริ่มจะเข้าแนวเถียงคำไม่ตกฟากซะแล้ว      เพราะดูเธอทั้งสองคนจะรู้เรื่อง.    และพร้อมจะเริ่มโต้ตอบได้ไวขึ้นโดยเฉพาะเจ้านัตซึคนเล็ก ช่างต่อปากต่อคำซะจริงๆ เริ่มเถียง(เอ้ย. หาเหตุผลมาอธิบายแทบไม่ทันซะแล้ว)

  ความมั่นใจย่อมเป็นสิ่งดีค่ะ แต่มั่นใจมากไปก็อันตรายนะค่ะ. ต้องอยู่ในการควบคุมและดูแลด้วย.  เมื่อสมัยเด็ก นัตซึเคยหลงทาง.    หายไปในห้างใหญ่ซะด้วย    ถึงขั้นประกาศตามหากันในห้างเลย ตอนนั้นนัตซึประมาณเกือบ 3ขวบ.    เธออยากเดินไปไหนก็เดินดุ่ยๆๆไปเลยไม่รอคุณแม่.      . (คงเพราะคิดว่าคุณแม่คงจะตามมาหาทันเอง).     วันนั้นขณะที่คุณแม่กำลังจะจ่ายเงินที่แคชเชียร์อยู่ในแผนกของใช้เด็กปรากฏว่านัตซึที่ยืนรออยู่ข้างดิฉันนั้น.         อยู่ๆก็หายไป ถามพนักงานห้างที่ยืนใกล้ๆกันก็บอกว่าไม่ได้สังเกตทั้งๆที่เป็นเวลาที่ดิฉันเตรียมเปิดกระเป๋าตังค์จ่ายเงินเท่านั้น.     โอ้ว..   ตายแล้ว.   ตายแน่ๆ.   ลูกหาย.      หายไปได้ยังไงเนี่ย.   เพิ่งจะเห็นตัวเป็นๆยืนกันอยู่ข้างๆเนี่ย... เลยวุ่นวายเดินตามหากันทั้งชั้นเลย พนักงานช่วยกันเดินตามหาทั้งแผนกเสื้อผ้าเด็ก โอ!  พระเจ้า ถ้าลูกชั้นถูกลักพาตัวไปตัดแขนตัดขา. เอาไปเป็นขอทาน แล้วชั้นจะทำอย่างไรดี.  ตายแล้ว ตายแน่ๆ. น้ำตาจะไหลอยู่แล้ว. นึกขึ้นมาได้ว่าลูกยังเล็กอยู่น่าจะชอบพวกของเล่นของสวยๆงามๆ เลยลองเดินไปแผนกของเล่นเด็ก.  เดินหาไปเรื่อยๆ จนจะถึงทางออกลานจอดรถในอาคารห้าง.    กำลังหมดหวังว่าจะได่้เจอนัตซึ สายตาก็เหลือบไปเห็นสาวน้อยตัวจ้อย นัตซึกำลังยืนดู การ์ตูนบาร์นี่ ที่มุมขายแผ่นการ์ตูน อยู่ในซอกทางเดินออกพอดิบพอดี.   เฮ้อ เกือบไปแล้ว.  จะโกรธ จะต่อว่าลูก ก็พูดไม่ออกหรอกค่ะ ได้แต่บอกว่าจะเดินไปไหนต้องบอกคุณแม่ก่อน ห้ามเดินเล่นเองไปทั่วมันอันตราย. รู้ไหมค่ะ.  เด็กน้อยของอิชั้น...   แต่ดิชั้นก็คิดว่าลูกคงจะไม่เข้าใจหรอกว่ามันอันตรายอย่างไร. เพราะคุณเธอยังยิ้มแย้ม หัวเราะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย...(ฮึ่ม..)

แต่นั่นยังไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นกับนัตซึ.      พอผ่านไปได้อีกสักสองปี เริ่มมีเรียนพิเศษในห้างตอนเช้า. ขณะที่คุณแม่กำลังนั่งติวนั่งสอนพี่เอมิอยู่ที่โต๊ะยาวๆบริเวณหน้าโรงเรียนดนตรี.     ที่ทางห้างจัดไว้นั้น. จู่ๆ นัตซึที่กำลังนั่งกินไส้กรอกอยู่ข้างๆก็หายไป.(อีกแล้วค่ะ...)  จังหวะที่ดิฉันหันมามองมาคุยกับเอมิเพียงไม่นาน.   นัตซึหายตัวไป ซะแล้ว.  นึกในใจ เอาอีกแล้วลูกสาวอิชั้นทำอะไรอีกแล้วเนี่ย.  . จากที่นั่งติวเอมิอยู่ กลายเป็นต้องเดินตามหานัตซึทั้งชั้นโซนการศึกษาในห้างเพราะไม่รู้ว่านัตซึจะหายไปที่ไหนบ้าง เพราะเรียนอยู่หลายที่แถวนั้น. แจ้งให้ รปภ.ห้างทราบ ประกาศวอให้ช่วยกันตามหาเด็กกันใหญ่เลยทั้งชั้นล่างชั้นบนโยโย่แลนด์.  .เดินหากันซักพัก. เลยคิดว่าที่ที่ยังไม่ได้หาคือห้องน้ำ. เลยเดินดูตามห้องน้ำใกล้ๆแถวนั้น. ปรากฏว่า. เจ้านัตซึ ลูกสาวอิชั้นเดินออกมาจากในห้องน้ำเพียงคนเดียว. ดิฉันบอกไม่ถูกเลยว่าจะโกรธ หรือจะดีใจดีนะเนี่ย.   นัตซึจอมแสบทำเอาหัวใจอิชั้นแทบวายซะแล้ว.     สอบถามจากลูก.    นัตซึบอกว่าปวดท้องอึ. เห็นคุณแม่กับพี่เอมิกำลังอ่านหนังสือสอบอยู่ไม่กล้าเรียก เลยแอบแว้บมาเข้าห้องน้ำเอง.  โห!!!!! อะไรกันเนี่ยลูก. หนูเพิ่งจะ 4 ขวบกว่าๆทำไม กล้ามาเข้าห้องน้ำในห้างคนเดียวได้ไงเนี่ย.  มันอันตรายนะรู้ไหม.  อย่าทำอย่างนี้อีก. แม่จะโกรธแล้วนะ รู้มั้ย. มีอะไรก็ตามต้องบอกก่อนนะ เข้าใจมั้ยค่ะ(ย้ำ ๆ ๆ ๆ เข้าใจมั้ย ๆ ๆ ๆคุณลูกขา).    ตอนนี้นัตซึเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าคุณแม่ชักจะโกรธจริงๆแล้วด้วย...

และแล้วเหตุการณ์ล่าสุดก็เกิดขึ้นอีก(. จนได้ ).  เมื่อช่วงวันที่ 23 ต.ค.56  ที่ผ่านมามีโอกาสพาไปงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์สิริกิตไปกันสามคนแม่ลูกเหมือนเช่นเคย. ในตอนบ่ายๆ หลังจากเดินซื้อหนังสือมาหลายชั่วโมงเลยชวนเอมิกับนัตซึมาพักทานข้าวใกล้ๆร้านเรทโทร อยู่ด้านหลังบู้ธหนังสือของนานมีบุ๊คส์.  สองสาวรีบทานข้าวแล้วขอไปนั่งอ่านหนังสือรอก่อน. (เพราะดิฉันกำลังเคลียร์ของกับหนังสืออยู่). ให้เอมิกับนัตซึเดินไปก่อนเดี๋ยวคุณแม่เดินตามไป.  ปรากฎว่าผ่านไปประมาณสิบนาที ดิฉันก็ลุกจากร้านอาหารไปหาสองสาว.  ปรากฏว่า. เห็นเอมินั่งอ่านนั่งเลือกหนังสืออยู่คนเดียว ไม่เห็นมีนัตซึเลย. ถามหาจากเอมิก็บอกว่าไม่ได้สังเกตไม่รู้ว่าน้องหายไปตอนไหน. นึกในใจ.     เอาอีกแล้วนะ.ลูกชั้น. คราวนี้มาหายที่ศูนย์ประชุมคนเป็นพันเป็นหมื่นจะตามยังไง.    นัตซึหายไปไหนอีกแล้ว.  คราวนี้ลำบากถึงพนักงานในร้านหนังสือบู้ธนานมี.       ช่วยกันตะโกนตามหาส่งเสียงต่อๆกันไปเป็นทอดๆว่า. น้องนัตซึ. อายุ6 ขวบ ใส่เสื้อสีขาว. ถ้าได้ยินแล้วให้มาพบคุณแม่ตรงนี้ด้วย.  โอ้โห ตะโกนดังกันตลอด. ดังไปทั่วร้านโซนนั้นเลย. ลูกค้าคนอื่นๆนับหลายร้อยคนรวมไปถึงบู้ธข้างๆ. พากันช่วยมองหาใหญ่เลย.  เรื่องใหญ่เลยคราวนี้อ่ะ.  เดินหา. ป่าวประกาศอยู่ประมาณ 10 นาที ไม่มีวี่แววเลย. เอาอย่างไรดี.  เลยเดินกลับไปที่ร้านอาหารอีกครั้ง.    แม่เจ้าประคู้ณเอ๋ย.   ไม่รู้ว่าจะโกรธหรือขำนัตซึดีล่ะเนี่ย.   เพราะภาพที่เห็นคือ. นัตซึยืนนิ่ง อยู่ตรงโต๊ะอาหารตัวเดิมที่เราเคยนั่งทานข้าว. แล้วก็จ้องมองพี่ผู้ชาย. 2 คน ที่กำลังกินอาหารอยู่ด้วยความกระอักกระอ่วนว่าตัวเองจะทำยังไงดีนะ.  ส่วนพี่ผู้ชาย 2 คนนั้นก็มองดูนัตซึพร้อมกับใบหน้าที่เก็บความสงสัยและก็งงๆว่า. เด็กผู้หญิงคนนี้จะมายืนดูเค้ากินอาหารกันอยู่ทำไมเนี่ย. จะมาขอข้าวกินหรือจะมาขอสตางค์รึเปล่าเนี่ย?  ไม่ใช่เพียงแค่คนโต๊ะนั้นที่นัตซึไปยืนจ้องดูอยู่ข้างๆ. แต่เป็นคนในร้านด้วย เค้าก็พลอยทำหน้าสงสัยว่าเด็กหลงมาจากไหนกันเนี่ย.ดิฉันมองเข้าไปในร้านก็เห็นนัตซึเริ่มบิดซ้ายบิดขวาเลยออกปากเรียกลูก.   เชื่อไหมค่ะ. นัตซึหันมาเห็นดิชั้นเท่านั้น น้ำตาเล็ดน้ำตาร่วงเลย.   โอ้ย. เกือบไปอีกแล้วไหมล่ะเราเนี่ย..     สุดท้ายเรียกได้ว่าคงจะต้องบรรจุเป็นคอร์สทบทวนให้นัตซึทุกๆ. 2 ปีแล้วล่ะมั้งว่า อย่าเดินหายไปไหนเพียงลำพังอีกเพราะอาจจะหลงกันได้อีกนะจ๊ะ นัตซึ...

แต่ใช่ว่านัตซึจะไม่มีพัฒนาการเรื่องการช่วยเหลือตนเองเวลาที่หลงทางกับคุณแม่.        เพราะเมื่อพานัตซึไปเดินดูหนังสืออีก. แล้วก็หลงหายคราวนี้ นัตซึใช้วิธีขอให้พี่ประจำร้านหนังสือโทรศัพท์เข้ามาหาคุณแม่เลย. โชคดีว่าคุณแม่เจอตัวก่อนพอดี.  ตอนที่นัตซึกำลังบอกเบอร์โทรของดิชั้นพอดีเลย. ..  โอะโอ้ว..นัตซึพัฒนาแล้ว รู้จักขอความช่วยเหลือให้คนอื่นโทรติดต่อคุณแม่ด้วย.    เออ..นัตซึ. โตขึ้นแล้วจริงๆอ่ะ...

แต่หวังว่าคราวต่อไป คงจะไม่ต้องถึงขั้นประกาศตามหาเด็กหายกันอีกแล้วนะจ๊ะ คุณลูกขา...

โหวตให้คะแนนบทความนี้
คำค้นหา: ไม่ระบุคำค้นหา
amijung (657 คะแนนที่ได้รับ)
amijung ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
เหรียญรางวัล:

ความคิดเห็น

กรุณา เข้าระบบ หากต้องการแสดงความคิดเห็นของคุณ