รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่


ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่

เกมคิดราคาอาหารร้าน fast food


ป้ายโฆษณา

ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com
คุณกำลังหาหรืออยากได้อะไรใน karn.tvclick ที่นี่!

 

Blog Me!

เปิดกว้างสำหรับเพื่อนสมาชิกที่ชอบการเขียน การจัดบันทึก การเขียน blog ก็คล้ายกับการที่เรามีสมุดกันคนละเล่มในนี้ อยากเขียนอะไรก็เขียน จะแบ่งให้ผู้สนใจและเพื่อน ๆ ได้อ่านแล้วมีส่วนร่วมผ่านทาง comment ก็ได้ หรือจะอยากเก็บไว้เป็นการส่วนตัวก็ได้ การเขียน blog จะช่วยทำให้เรารู้จักการเรียบเรียงเรื่องราวที่ต้องการจดบันทึก การนำเสนอ และได้แบ่งปันความรู้ นานาทัศนะต่อกัน ที่สำคัญ! ยังเป็นการบันทึกไว้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่ใคร ๆ ก็มีโอกาสได้เห็น blog ของคุณ!

โพสต์โดย แม่น้องกานต์
แม่น้องกานต์
แม่น้องกานต์ ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
เมื่อ พฤหัสบดี, 23 กุมภาพันธ์ 2012
ใน การเลี้ยงลูก

เพลงกล่อมเด็กสื่อรักกระตุ้นพัฒนาการลูกได้

ใครยังร้องเพลงกล่อมลูกเวลานอนยกมือขึ้น  ไปเจอบทความของ นพ.อุดม เพชรสังหาร อธิบายถึงประโยชน์ที่เด็กได้รับจากการฟังเสียง
แม่ร้องเพลงกล่อมนอนแล้ว ก็รู้ว่าเรามาถูกทางเลยต้องรีบมาบอกต่อค่ะ

อ้อยร้องเพลงกล่อมเด็กกล่อมให้ลูกนอนมาตั้งแต่เล็ก จนตอนนี้ 9 ขวบแล้วยังขอให้แม่กล่อมอยู่เลย   ไม่ได้กล่อมกันทุกคืนเหมือนสมัย
เบบี๋หรอกนะคะ บางคืนก็เล่านิทาน บางคืนแม่เหนื่อยคิดนิทานไม่ออก  ลูกก็จะขอให้ร้องกล่อมแทนเพราะมันง่ายกว่ามาก ก็ร้องมาหลายปี
จนรู้สึกเหมือนกับว่าพอเราอ้าปากมันก็ออกมาเองไม่ต้องใช้สมองคิดเลย บางทีเคลิ้มหลับไปด้วยร้องไปด้วย..ขั้นเทพไหมล่ะคะ.. อิอิ

เพลงกล่อมที่ร้องส่วนใหญ่ก็เป็นเพลงที่เคยฟังแม่กล่อมเราตอนเป็นเด็กทั้งนั้น น่าแปลกไหมคะมันบันทึกอยู่ในส่วนลึกของความทรงจำ
มาตั้ง 30 ปี แม่ไม่เคยสอน ไม่เคยจดเนื้อร้องให้ท่องเลย แต่พอเรามีลูกเราอยากกล่อมเขาสมองมันก็ขุดเอาเพลงเหล่านี้ขึ้นมาได้ 
เนื้อร้องอาจไม่ตรงเป๊ะตามตำราเพลงกล่อมลูกที่ไหน  แต่อ้อยก็ร้อง copy ตามคำที่แม่เคยกล่อมเรามาแบบนั้นมันคุ้นเคยมากกว่า  เช่น
เพลงกาเหว่า, เพลงนกขมิ้นเหลืองอ่อน, เพลงแม่ไก่,เพลงจันทร์เจ้า ส่วนเพลงใหม่ที่คิดร้องเองก็มีเพลงบัวขาว กับ นิทานหิ่งห้อย 

เพื่อนๆล่ะคะใช้เพลงอะไรร้องกล่อมลูกกันบ้างคะ?

ในขณะที่อ้อยร้องกล่อมลูกในใจจะต้องนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่แม่กล่อมเราสองพี่น้องนอนทุกครั้ง แถมมีตบก้นด้วยนะ (ตอนนี้รู้แล้ว
ว่ามันเมื่อยมือแค่ไหนกว่าลูกจะหลับ{#emotions_dlg.cry}) นี่คงเป็นข้อพิสูจน์เล็กๆส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าความอบอุ่นความสุขใจในขณะที่นอนฟังแม่
กล่อมนั้นฝังลึกยาวนานในใจลูกตลอดไป

 

สำหรับประโยชน์ของบทเพลงกล่อมลูกนั้นในด้านที่ว่าช่วยสืบสานภูมิปัญญา บรรยายวิถีชีวิตอะไรทำนองนั้น เราพ่อแม่รุ่นใหม่คงไม่ใคร่
จะสนใจเท่าไร  แต่ถ้าบอกว่ามีผลวิจัยอะไรที่ช่วยพัฒนาลูกได้ละก็ตาโตเลย..จริงมั้ยคะ

ถ้างั้นอย่ารอช้าเรามาอ่านบทสัมภาษณ์คุณหมอกันดีกว่าค่ะ


โดย: นพ.อุดม เพชรสังหาร


ไก่เอ๋ยไก่เถื่อน ขันเทือนทั้งบ้าน
ลูกสาวขี้คร้าน นอนให้แม่ปลุก
ฉวยไม้ด้ามขวาน แยงวานดังปลุ๊ก
นอนให้แม่ปลุก ลูกสาวขี้คร้านเอย


ใครที่เป็นคนใต้ น่าจะรู้จักเพลงกล่อมลูกบทนี้ดี บางคนพอได้ยินเพลงนี้ ภาพความทรงจำในวัยเด็ก 
ตอนที่แม่ร้องเพลงนี้กล่อมนอน
อาจผุดขึ้นมาในห้วงความคิดคำนึงด้วยความรู้สึกที่เป็นสุขแต่บางคน 
ก็อาจรู้สึกเฉยๆ อะไรคือเหตุของความแตกต่าง


ผมไปทำงานที่นครศรีธรรมราช ได้พบปะกับผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ได้พูดคุยกันถึงเรื่องเพลงกล่อมลูกและประโยชน์ของมัน คนเฒ่าคนแก่
ที่ได้พูดคุยด้วย ต่างก็ยืนยันว่าเพลงกล่อมลูกมีประโยชน์ มันช่วยทำให้
ลูกหลับได้เร็ว พ่อแม่จะได้มีเวลาไปทำงานอย่างอื่น มันช่วยสอน
ลูกหลานให้เป็นคนดี มันคือการรักษาประเพณีที่มีมาแต่โบราณ นี่คือคำอธิบายที่กลั่นมาจากประสบการณ์ของพวกเขา

ถ้าเทียบกับคนรุ่นปู่ย่าแล้วพ่อแม่หนุ่มสาวหลายคนกลับพบว่าพวกเขาเฉยๆ กับเรื่องนี้สำหรับพวกเขาจะมีเพลงกล่อมลูกหรือไม่ ไม่สำคัญ
จะไปตำหนิพ่อแม่รุ่นใหม่ว่าไม่รู้จักของดีก็คงไม่ถูก เพราะคนรุ่นนี้ต้องการคำอธิบายที่มากกว่าคำว่ามัน มันเป็นเรื่องที่ทำกันมาตั้งแต่ปู่ย่า
ตายาย พวกเขาต้องการคำอธิบาย
ที่มีหลักฐานยืนยัน ไม่ใช่แค่เพียงคำเล่าขาน


สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้จัดประกวดเพลงกล่อมลูกเป็นประจำทุกปีมากว่า
สองทศวรรษแล้ว
ปีนี้ก็เพิ่งประกาศผลการประกวดไป แต่พ่อแม่รุ่นใหม่ส่วนใหญ่ก็ยังมองไม่เห็นคุณค่า 
ของเพลงกล่อมลูก เหมือนกับที่คนรุ่นเก่ามอง

ในต่างประเทศก็ได้มีการค้นคว้าวิจัยกันค่อนข้างเยอะ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในสหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยแม็คกิล ในแคนาดา
มหาวิทยาลัยออฮุส ในเดนมาร์ค ถึงกับมีการตั้งศูนย์วิจัยเพื่อทำการศึกษาว่าดนตรี สมอง และความสามารถในด้านต่างๆ ของมนุษย์ว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร และจะนำมาใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนามนุษย์ได้อย่างไร ทีมนักวิจัยของเขาก็มีทั้งหมอ นักดนตรี นักจิตวิทยา และอีก
หลายๆ สาขาอาชีพมาร่วมกันทำงาน เพราะการศึกษาวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบใหม่ๆ นั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้หลายๆ แขนงประกอบกัน


ความรู้เท่าที่ได้มีการค้นพบแล้วนั้นเขาพบว่าเพลงกล่อมลูกนั้นสร้างคุณประโยชน์ให้กับเด็กได้มากมาย
เลยทีเดียว


เพลงกล่อมลูก ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของการได้ยินให้กับทารกในครรภ์ เพราะเสียงเพลงจากแม่สามารถถ่ายทอดไปยังลูกได้
โดยตรงตั้งแต่เด็กยังอยู่ในท้องแม่ ความสูงต่ำของทำนองเพลงจะกระตุ้นให้เซลล์สมองที่ทำหน้าที่รับเสียงในแต่ละย่านความถี่มีพัฒนา
การที่ดีขึ้น ทำให้เด็กมีความสามารถในการแยกแยะความสูงต่ำของเสียงได้ นี่คือรากฐานของพัฒนาการด้านภาษา

ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเสียงสูงต่ำ จำเป็นต้องใช้ความสามารถแบบนี้มาก ไม่งั้นเราจะแยก “พี่” ออกจาก “ผี” ไม่ได้

เพลงกล่อมลูก ช่วย สื่อความรักจากแม่ไปสู่ลูก ท่วงทำนอง และน้ำเสียงที่อ่อนโยนของเพลงกล่อมลูกคือ “สาร” ที่จะ “สื่อ” ไป
ยังลูกว่า พ่อแม่รักลูกแค่ไหน ความรู้สึกว่าตนเองเป็นที่รักของพ่อแม่คือพลังที่จะทำให้เด็กเติบโตทั้งร่างกายและจิตใจ การค้นพบเซลล์กระจกเงา การค้นพบความเปลี่ยนแปลงของสารเคมีหลายอย่างในสมองของเด็ก คือหลักฐานที่ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง

เพลงกล่อมลูก ช่วยถ่ายทอดคุณค่าที่ดีงามจากพ่อแม่ไปสู่ลูก เนื้อหาที่เป็นคำสอน ที่แสดงถึงคุณค่าของชีวิตที่ดี หากถูกเรียบเรียง
ด้วยถ้อยคำที่แสดงออกถึงการกระทำ จะกระตุ้นให้เซลล์กระจกเงาในสมองของเด็กทำงาน และนั่นหมายความว่าเด็กจะซึมซับและนำเอา
บทเรียนนี้ไปปฏิบัติเมื่อถึงเวลา

ความรู้ที่มีการค้นพบใหม่เหล่านี้ล้วนยืนยันความสำคัญและคุณค่าของเพลงกล่อมลูก แต่เราก็ยังไม่ได้นำความรู้เหล่านี้มาใช้ประโยชน์
เท่าที่ควร จึงไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่ซึ่งต้องการคำอธิบายที่มากกว่าจะมองข้ามความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ไป

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าใครควรจะทำหน้าที่นี้ แต่สำหรับตัวเองก็ขอทำเท่าที่ตนเองจะสามารถทำได้ คือการเล่าให้ฟัง เผื่อว่าจะมีใครที่
เกี่ยวข้องเกิดความกระจ่างขึ้นแล้วนำไปขยายผลต่อ สังคมของเราจะได้รู้จักใช้เครื่องมือดีๆ ที่มีอยู่แล้ว พัฒนาลูกหลานของเรา
แถมยังได้รักษาสิ่งที่เรียกว่าภูมิปัญญาของเราเอาไว้อีกด้วย


โดย MomyPEDIA

โหวตให้คะแนนบทความนี้
แม่น้องกานต์ (77 คะแนนที่ได้รับ)
แม่น้องกานต์ ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
เหรียญรางวัล:

ความคิดเห็น

แม่น้องอัยย์
แม่น้องอัยย์
แม่น้องอัยย์ ยังไม่ได้ตั้งค่าประวัติส่วนตัว
สมาชิกยังไม่ได้ออนไลน์
แม่น้องอัยย์ พฤหัสบดี, 23 กุมภาพันธ์ 2012

สงสัยต้องกลับมาร้องเพลงกล่อมลูกก่อนนอนเหมือนเดิมแล้วละคะ เดี๋ยวนี้ลูกไม่ค่อยได้ฟังแม่ร้องเพลงกล่อม มักได้ยินเสียงแม่บ่นกล่อมจนลูกต้องรีบหลับ เพราะรำคาญ55

กรุณา เข้าระบบ หากต้องการแสดงความคิดเห็นของคุณ