รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่
ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่
เต่าน้ำ
การเลี้ยงเต่าเบื้องต้น มาเลี้ยงเต่ากันเถอะ เต่าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่า มีอายุยืนยาวนับร้อยปี ซึ่ง ในธรรมชาติของมันนั้นมีสภาพแวดล้อมที่ เปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลา ทั้งแดดฝนและลม เต่าจึงมักหาที่หลบซ่อน ซึ่งมีมากมายในธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเรานำเต่ามาเลี้ยงควรจัดสภาพแวดล้อมต่างๆให้มีความใกล้เคียงกับ สภาพแวดล้อมตามธรรมชาติให้มากที่สุด และให้เหมาะสมกับเต่าเพื่อที่มันจะสามารถอยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข เพราะเต่านั้นอายุยืนยาวกว่าช่วงชีวิตของคนเสียอีก ดังนั้นผู้ที่ต้องการจะเลี้ยงเต่า จึงต้องเตรียมความพร้อมและมีความเข้าใจในการเลี้ยงเสียก่อน เต่าที่พบทั่วโลกจะแบ่งเป็น กลุ่มใหญ่ๆได้เป็น 3 กลุ่ม คือเต่าทะเล, เต่าบก และเต่าน้ำจืด ซึ่งเต่าทั้งสามนี้ มีวิถีการดำรงชีวิต อาหารการกิน และแหล่งที่อยู่อาศัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าไม่เข้าใจถึงความแตกต่างนี้อาจทำให้เลี้ยงเต่าแบบผิดๆได้ ทั้งเต่าบกและเต่าน้ำจืด เป็นที่นิยมนำมาเลี้ยงเป็นงานอดิเรกในปัจจุบัน ซึ่งล้วนเป็นเต่าที่มีอายุยืนยาวกว่าร้อยปี นั่นแสดงว่าคุณจะต้องอยู่กับมันไปจนชั่วชีวิตของคุณ และอาจต้องวางแผนต่อไปว่า เมื่อคุณตายไปก่อนจะจัดการกับเจ้าเต่าน ี้อย่างไร เช่น นำไปขาย มอบให้คนรู้จัก หรือมอบให้กับหน่วยงานรัฐบาลและเอกชนที่ดูแลเรื่องสัตว์เหล่านี้ และต้องไม่ลืมว่าเต่าต่างประเทศหลายตัวไม่สามารถ ดำรงชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมของบ้านเราได้ หากคุณเบื่อและคิดที่จะนำมันไปปล่อยทิ้ง และบางชนิดอาจกลายมาเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ตามมาในอนาคต หากคุณแก้ปัญหา ด้วยวิธีนี้ซึ่งไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง นอกจากนี้คุณยังต้องจ่ายค่าอาหาร,ยาและอาหารเสริม และอุปกรณ์ในการเลี้ยง สำหรับเต่าของคุณอีกไม่น้อย เพราะเต่าจะกินอาหารเพิ่มมาก ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันโตขึ้น คุณอาจตกใจเมื่อเห็นเต่าบางตัวกินผักได้เป็นกิโลๆ ส่วน ยาและอาหารเสริมอื่นๆก็มีความจำเป็นเฉกเช่น เดียวกัน คุณต้องมีเวลามากพอ สำหรับการเอาใจใส่เลี้ยงดูพวกมัน เพราะเต่าจะแข็งแรงถ้าได้ตากแดดทุกวัน ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และต้องหมั่นทำความสะอาดเต่าและภาชนะของมันให้สะอาด อยู่เสมอ และเรื่องจุกจิกเล็กน้อยที่จะตามมา แต่การเลี้ยงเต่าก็ยังคงมีเสน่ห์สำหรับคนในบางกลุ่มอยู่นั่นเอง จำเอาไว้ว่า ถ้าคุณ รักสัตว์ของคุณคุณจะไม่รู้สึกเบื่อ หรือเหน็ดเหนื่อยกับการเลี้ยงเลย ถ้าเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ศึกษาข้อมูลของเต่าที่ต้องการให้ดีเสียก่อน แล้วไป เลือกซื้อเต่ากันเลย วิธีการเลือกซื้อเต่า ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องไปจับเต่าจากในธรรมชาติ เพราะมีขายอยู่ตามร้านขายสัตว์เลี้ยงมากมาย ทั้งเต่าไทยและเต่าจากต่างประเทศ แต่เราจำเป็นต้องมี วิธีการเลือกซื้อเพื่อให้ได้เต่าที่สมบูรณ์แข็งแรง เพราะเต่าที่มาอยู่รวมกันมากมายนั้นยาก ที่จะแยกได้ว่าตัวไหนแข็งแรงหรือป่วย เพราะเต่าจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมาให้เห็น เต่าที่ขายอยู่ตามร้านสัตว์เลี้ยงทั่วไปนั้น เราสามารถเลือกได้ง่ายๆ ดังนี้ 1. เลือกตัวที่มีสีสันสวยงาม ลายบนกระดองต่อเนื่องกัน ไม่ขาดตอน โดยเลือกตัวที่มีลายสมบูรณ์ที่สุด 2. การ เปรียบเทียบน้ำหนักเต่า โดยเลือกเต่าตัวที่ต้องการมาถือไว้ในมือ เต่าที่สุขภาพดีจะมีน้ำหนักพอสมควร อาจเปรียบเทียบกับ เต่าที่มีขนาด พอๆกันหลายๆตัว เพื่อความมั่นใจ ซึ่งตัวที่น้ำหนักเบานั้นไม่ควรซื้อ เพราะเป็นเต่าที่ไม่แข็งแรง อาจป่วยใกล้ตาย โดย ถือเต่าไว้ในมือคนละด้าน กะน้ำหนักโดยประมาณเปรียบเทียบกัน ทำอย่างนี้กับหลายๆตัว 3. เลือกเต่าที่ไม่พิการ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง 4. เต่าที่สุขภาพดีจะมีการตอบสนอง อาจแสดงอาการขัดขืนหรือขยับแขนขาไปมา ส่วนเต่าที่อยู่นิ่งๆและไม่ค่อยขยับนั้นแสดงถึงอาการป่วย 5. ตัว และกระดองสะอาด สะอ้าน ตาใสและกระดองเป็นเงางาม 6. กินอาหารเก่ง ถ้าในตอนนั้นเป็นช่วงที่เต่ากำลังกินอาหารก็สามารถสังเกตได้จากพฤติกรรมนี้ เพราะเต่าที่ป่วยจะไม่กินอาหาร 7. เลือก เต่าที่สุขภาพดี ไม่ป่วย อาจดูได้จากบริเวณโคนขาจะต้องไม่บวม ซึ่งเต่าที่เลี้ยงอย่างไม่ถูกสุขอนามัยมักเป็นโรคโคนขาบวม เต่าที่ขายอยู่ตามร้านนั้น อาจจะมีสุขภาพ ร่างกายไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากการขนส่ง การอยู่อย่างแออัด และสภาพแวดล้อมต่างๆ ดังนั้นในความเป็นจริงเราอาจต้องเลือกเต่าที่ดีที่สุดในร้านนั้น การเลี้ยงเต่าน้ำ ขั้นแรกต้องเตรียมวัสดุเลี้ยงเช่นเดียวกับเต่าบกคือ ภาชนะเลี้ยง วัสดุปูพื้น นิยมใช้หิน หรือทราย ที่หลบซ่อน พรรณไม้น้ำ ก้อนหิน กรณีเลี้ยงในบ้านต้องมีหลอดไฟแบบยูวี(อัลตร้าไวโอเล็ต) เต่าน้ำส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงในบ่อน้ำบริเวณนอกบ้านเพราะเต่าน้ำโตเร็ว และมีขนาดใหญ่แต่ถ้าเลี้ยงในภาชนะก็ต้องจัดวาง ให้มีส่วน ที่เป็นน้ำ 2 ส่วน และพื้นที่แห้งอีก 1 ส่วน อาจเอียงภาชะเพื่อให้น้ำไหไปอยู่ด้านใดด้านหนึ่งของภาชนะก็ได้ เต่าจะมีพื้นที่สำหรับว่ายน้ำ และอยู่บนบก ที่สำคัญต้องมีที่ไว้หลบซ่อน อาจใช้กระถางดินเผา พรรณไม้น้ำหรือก้อนหินเรียง ให้สวยงามก็ได้ วางไว้ในบ้านหรือนอกบ้านก็ได้ โดยเลือกสถานที่ปลอดโปร่งอากาศถ่ายเสะดวก ให้สามารถโดยแดดบ้าง แต่ไม่ควรโดนแดดโดยตรงเพราะน้ำในภาชนะจะร้อน เต่าอาจตายได้ ส่วนเรื่องอาหาร เต่าน้ำจะกินอาหารแตกต่างกันไปตามชนิดของมัน โดยคร่าวๆ แล้วมักกินผัก เช่นผักบุ้ง ผักกาดขาว แต่เต่านาจะกินหอย การแยกเพศ ทั้งเต่าบกและเต่าน้ำจะมีวิธี การแยกเพศคล้ายกัน คือ ในเพศผู้จะมีกระดองส่วนท้องเว้าเข้าไปด้านใน ในขณะที่ตัวเมียส่วนท้อง จะเรียบเสมอกันส่วนลักษณะ อื่นๆ อาจแยกได้ตามชนิดของเต่า เช่นในเต่าบกบางชนิดตัวเมียมีหางเล็กมีหนามแหลมสีเหลืองที่โคนขา ตัวผู้หางใหญ่และยาวกว่า แก้มมีแต้มสีแดงมีเล็บใหญ่ยาวที่เท้าหลัง เป็นต้น อาหารของเต่าน้ำ *ความหลากหลายเป็นหัวใจสำคัญ* เช่นเดียวกับเต่าบก การให้อาหารเต่าน้ำก็ต้องคำนึงถึงความหลากหลายเช่นกัน การให้อาหารที่ไม่ซ้ำซากจะทำให้เต่าของคุณเพลิดเพลิน แข็งแรง เต่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ กินอาหารที่หลากหลายมาก ถ้าคุณสามารถหาอาหารให้เต่าเลี้ยงหลากหลายเหมือนที่เต่าธรรมชาติกิน เต่าของคุณก็จะแข็งแรงไม่แพ้อาร์โนลด์ ชวาเซเนกเกอร์ เลยทีเดียวปัญหาสุขภาพ หรือโรคขาดอาหารของเต่าที่เราพบบ่อยๆ ก็คือโรคขาดวิตามินเอ อาการของเต่าหับที่เป็นโรคนี้ก็คือตาบวมและเป็นหนอง ระหว่างที่สัตวแพทย์กำลังรักษามัน คุณก็ควรให้มันกินอาหารที่มีวิตามินเอมากๆ เช่น แครอท ร่วมด้วย นอกจากให้อาหารที่มีวิตามินเอแล้ว คุณยังควรจัดอาหารที่หลากหลาย เช่นเดียวกับที่ควรได้รับตามธรรมชาติให้มันด้วย การให้อาหารหลากหลายนี้ จะทำให้เต่าของคุณได้รับสารอาหารครบถ้วน เต่าหับตามธรรมชาติจะกินอาหารที่มันหาได้ใกล้ๆ ตัว เช่น ไส้เดือน หอยทาก ตัวบุ้ง เห็บหมัด หนู ซากสัตว์ ผลไม้ลูกเล็กๆ เป็นต้น
ขอขอบคุณ: http://www.siamreptile.com/article005.html |
www.karn.tv สื่อการสอนระดับ อนุบาล - ประถมต้น (ช่วงชั้นที่ 1) รวมแบบฝึกหัด ตัวอย่างข้อสอบ กิจกรรมเพิ่มทักษะ ข้อมูลการศึกษา โรงเรียน |