รู้จักกับแนวทางการศึกษาที่ผนวกความรู้ทางด้าน วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์ และ การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับความท้าทายในโลกยุคใหม่ click! ที่นี่


ฝึกบวกเลขไปกับเกมสนุก ๆ ในร้านฟาสต์ฟู้ด! เด็ก ๆ จะสนุกกับการคำนวณและรู้สึกเหมือนเป็นมือโปร! click! ที่นี่

เกมคิดราคาอาหารร้าน fast food


ป้ายโฆษณา

ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com
คุณกำลังหาหรืออยากได้อะไรใน karn.tvclick ที่นี่!

ฝันร้ายในเด็ก

พิมพ์อีเมล

( 2 Votes )

 

ฝันร้ายในเด็ก


เมื่อเด็กๆ นอนฝันร้าย หรือตื่นขึ้นมาพร้อมความฝันที่น่ากลัว พ่อแม่มักจะคิดว่านั่นคือสัญญาณบอกความผิดปรกติอะไร บางอย่างจากลูก แต่จากการวิจัยล่าสุดรายงานว่า ฝันร้ายในเด็กเหล่านี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ค่อยบ่งชี้ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยหรือ สร้างปัญหาทางจิตใจแก่เด็กประการใด

Dr. J. F. Pagel ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาและ รักษาโรคนอนไม่หลับ แห่ง University of Colorado Medical School ใน Pueblo ชี้แจงว่า ผลการวิจัยอาจขัดกับความเชื่อโดยทั่วไป แต่เด็กๆ ที่นอนฝันร้ายบ่อยๆ ไม่ได้หมายความว่าจะ เป็นเด็กที่มีปัญหาทางจิตแต่อย่างใด โดยอธิบายว่า ฝันร้ายในเด็กๆ จะมี 2 ประเภทที่มักทำให้พ่อแม่ตกใจ คิดไปว่าลูกจะเป็นอะไรหรือเปล่า นั่นคือ ฝันร้ายโดยทั่วไป (Nightmares) และ ฝันร้ายแบบน่าสะพรึงกลัวมาก (Night Terrors)

ฝันร้ายแบบNightmares คือการฝันร้าย, ฝันไม่ดี ฝันถึงเรื่องน่ากลัวๆ แล้วทำให้เด็กๆ ตกใจตื่น มักจะฝันในตอนที่กำลังหลับสนิท หลับลึก (deep sleep) โดยเฉพาะในช่วงใกล้รุ่งเช้า เช่นตอนตี 4 ส่วนฝันร้ายแบบ Night Terrors มักเกิดขึ้นในช่วงต้นของการนอนหลับ และจะเป็นการฝันถึงเหตุการณ์เป็นเรื่องราว ที่น่าหวาดกลัวต่อเนื่องกัน ซึ่งยากที่จะปลุกเด็ก ที่กำลังฝันให้ตื่น เด็กที่เผชิญกับ Night Terrors มีเพียง 1-4% เท่านั้นและส่วนใหญ่อายุประมาณ 4-12 ปี

พ่อแม่มักเป็นห่วงเมื่อลูกฝันร้าย เพราะทำให้เด็ก มักมีอาการซึมเศร้าหลังจากฝัน แต่ Dr. Pagel ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตกแต่ประการใด ที่พ่อแม่อาจทำได้คือปรึกษาหมอประจำตัวลูก ซึ่งส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาในการบำบัด การบำบัดอาจใช้วิธีพูดคุยกับลูก, เพิ่มความใกล้ชิด ให้ความอบอุ่นและให้ความมั่นใจกับลูกให้มากขึ้น เพราะการฝันร้ายจนถึงขั้นสะท้อนถึงอาการเจ็บป่วย บางอย่างนั้นมีโอกาสเกิดได้น้อยมาก หรือถ้ามีก็มัก จะหายไปเองเมื่อเติบโตเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ นอกจากนั้น ยาบางชนิดสามารถทำให้เกิดการฝันร้ายได้เช่น ยากดประสาท, ยานอนหลับ, ยาระงับประสาท, ยาแก้ปวดบางชนิด เพราะตัวยาเหล่านี้ไปรบกวน การทำงานของสมอง และป็นเรื่องธรรมดาที่จะ มีอาการซึมเศร้าตามมาหลังจากฝันร้าย

แต่ถ้าการฝันร้ายนั้น มีผลทำให้ความสามารถ ในการทำกิจกรรมในตอนกลางวันของเด็กๆ ลดลงผู้ปกครองก็อาจพูดคุยปรึกษากับคุณหมอ ประจำตัวลูกเพื่อความสบายใจ และที่สำคัญพ่อ แม่ควรหาเครื่องป้องกันให้เด็กที่นอนฝันร้าย ประเภทNight Terrors เนื่องจากเด็กๆ อาจเดิน ละเมอชนข้าวของ หรือนอนตกเตียงได้

อ้างอิงจาก : American Family Physician 2000