นักฟุตบอลคนเก่ง (แต่ขี้เกียจ) ของแม่
นักฟุตบอลคนเก่ง (แต่ขี้เกียจ) ของแม่
โดย : อ.พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล
ประวัติผู้ฝึกสอน คลิ๊กที่นี่
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมจั่วหัวเรื่องแบบอ่านแล้วรู้สึกนึกถึงเจ้าตัวเล็กแต่มีอิทธิพลคับ บ้าน ก็คงเป็นลูกชายคนเก่งของคุณแม่หลายๆ คนนะครับที่อ่านแล้วน่าจะเข้าข่ายเรื่องที่ผมกำลังจะเล่าสู่กันฟัง ช่วงนี้ผมได้เจอกับนักฟุตบอลตัวน้อยๆ หลายคนล่าสุดสมาชิกใหม่ชื่อ “น้องปลื้ม” วัย 5 ขวบ แต่ก็สามารถเล่นกับพี่ๆ 6-7 ขวบได้อย่างสนุก คำว่าสู้ของผมหมายถึงการฝึกซ้อมร่วมกันนะครับ การฝึกซ้อมสำหรับเด็กวัยนี้เน้นเรื่องของพัฒนาการ ผสานความสนุกสนานแล้วก็สร้างเสริมเรื่องของสภาพจิตใจ เด็กถ้าได้เล่นกีฬาเขาก็จะเรียนรู้เรื่องของกฎกติกาแบบไม่รู้ตัว และพร้อมที่จะจดจำสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในเกม หรือระหว่างการฝึกซ้อมนะครับ ผมเอ่ยชื่อน้องปลื้มขึ้นมาก่อนเพราะน้องปลื้มขยันซ้อม กล้าเล่นกับเพื่อนใหม่ที่อยู่ในวัยใกล้กัน เห็นน้องปลื้มมาซ้อมฟุตบอลโดยมีทีมงานเบื้องหลังคอยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ ข้างสนาม ทั้งคุณแม่ คุณน้าและคุณยาย อบอุ่นมากครับ ผมอิจฉาน้องปลื้มจริงๆ พอหันมาทางเจ้าตัวเอกของเรื่องในตอนนี้ “คุณภูมิ” หรือนายภูมิ ลูกศิษย์วัย 9 ขวบ แต่หุ่นปาเข้าไปเหมือนเด็ก 11 ขวบ ยืนยิ้มมือเท้าเอว อยู่ข้างสนาม เอาละถึงเวลาจัดการนำนายมาเป็นพระเอกของเรื่องแล้วละ
หลายท่านอาจสงสัยว่าผมกำลังนำลูกศิษย์มาแฉ แต่จริงๆ แล้วผมนำมาเล่าเป็นตัวอย่างนะครับ ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่เป็นเรื่องที่เราท่านอาจไม่ทันทบทวนกัน ตัวอย่างของน้องภูมิ เป็นเด็กชายน่ารักวัย 9 ขวบ มีสุขภาพแข็งแรงดีมาก คุณแม่ก็น่ารัก คอยส่งเสริมและพาไปเรียนฟุตบอลกับอาจารย์หลายท่านที่จัดการสอนฟุตบอล บางที่ก็ฝึกหนักมาก บางที่ก็ไม่หนัก มีความแตกต่างกันไป สรุปล่าสุดก็มาอยู่ภายใต้การสอนของผม ได้เลยผมจัดการทดสอบความคล่องตัว สภาพจิตใจ ทักษะฟุตบอล ผ่านหมดครับ เต็ม 10 ผมให้ 8 ขาดไป 2 เพราะผมเห็นแล้วว่าคะแนนที่ขาดหายไปตกไปอยู่กับคุณแม่ที่มานั่งให้กำลังใจ ข้างสนาม พอพักทีเจ้าภูมิก็วิ่งไปอ้อนขอน้ำแม่กิน เสร็จแล้วก็ให้แม่ช่วยเก็บขวดน้ำให้หน่อย ผมสังเกตดูพฤติกรรมอยู่ก็เลยดุเล่นๆ ไปหนึ่งครั้งว่า “เป็นนักกีฬาแล้วทำไมใช้คุณแม่เก็บขวดน้ำให้ ต้องช่วยตัวเองก่อน ค่อยดูเป็นนักฟุตบอลคนเก่งหน่อย”
เรื่องคะแนนที่ผมกล่าวถึงเปรียบได้กับองค์ประกอบของการเรียนฟุตบอล หรือนักเรียนที่อยู่ในคลาส ช่วงที่เรียนจะมีนักเรียนกับครู ดังนั้นผู้ปกครองต้องปลีกตัวออกมาห่างๆ หน่อย เพื่อที่ว่า เด็กเขาจะได้ทราบสถานะของตัวเองว่า “ตอนนี้เขาเป็นนักเรียนนะ มีบทบาทที่ต้องทำอย่างไร และเขาต้องเชื่อฟังใคร” ผมกล่าวแค่นี้คุณผู้ปกครองก็นึกออกเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า เรากำลังสร้างความรับผิดชอบ สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ให้กับลูกหลานของเรา และเขาต้องมีสมาธิกับสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ “น้องภูมิ” เริ่มปรับตัวได้และหันมาซ้อมอย่างตั้งใจแต่ก็ยังคงมีบทอ้อน หรือท่าทีขี้เกียจให้เห็นเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคุณแม่เป็นระยะ ซึ่งก็ได้ผล อย่างน้อย “น้องภูมิ” ก็ได้เห็นรอยยิ้มอย่างอบอุ่นและเอ็นดูเขาจากคุณแม่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แม้ว่าจะได้ยินเสียงบอกให้ขยันซ้อมหน่อย ชอบขี้เกียจซ้อมเสมอ อาจารย์เอาเลยค่ะ ไม่ต้องออมมือเลย จัดการน้องภูมิได้เลยไม่ต้องเกรงใจ แต่เสียงเหล่านี้ก็เป็นเสียงที่สร้างรอยยิ้มให้น้องภูมิได้เช่นกัน เพราะเขารับความอบอุ่นไปเต็มๆ ทั้งจากเสียงของแม่และการค่อยๆ สร้างความรับผิดชอบกับการฝึกซ้อมของเขาแบบค่อยเป็นค่อยไป ผ่อนหนักผ่อนเบาจากผม แต่เขาก็ทำได้ดี และทำอย่างไม่บ่ายเบี่ยง ซึ่งมันก็ดีกว่าการทำเพราะถูกบังคับจากอาจารย์ผู้สอนที่ร่วมมือกับคุณแม่ของ เขา
เรื่องราวสั้นๆ ที่ผมเล่าเป็นตัวอย่างนี้ เกิดขึ้นบ่อยกับพ่อแม่ลูกหลายคน เจ้าจอมขี้เกียจคนเก่งของแม่หรือของพ่อ จะเป็นนักกีฬาที่ดีได้ไม่ใช่แค่เพียงเขาต้องฝึกซ้อมอย่างหนักและมุ่งมั่น แต่เขาต้องฝึกอย่างมีขั้นตอน และสนุกในการเรียนรู้ตามวัยเด็กของเขา เราเองก็ต้องสร้างแบบอย่างให้เขาก่อน ด้วยความนับถือผมไม่ได้กล่าวโทษใครว่าผิดที่มานั่งเชียร์ลูกหลานเวลาเรียน ฟุตบอลหรือกีฬาประเภทอื่นๆ แต่ถ้าเป็นไปได้เราลองแอบดูเขาห่างๆ เราจะได้เห็นลูกหลานของเราในมุมที่กว้างขึ้นและแปลกออกไป เราจะได้เห็นเขากับคนที่เป็นเพื่อนเขา และคนที่เขาต้องไปเรียนรู้ ผมเองในฐานะผู้สอน ก็รักลูกหลานของทุกท่านอย่างน้อย ผมก็มีจุดประสงค์เดียวกันอย่างหนึ่งคืออยากเห็นพวกเขาเป็นนักกีฬาที่ดี อันหมายถึงบุคลิกภาพ สุขภาพ และความสามารถในเชิงกีฬา ลองดูนะครับ ความรักความอบอุ่นสามารถนำมาจัดการกับเจ้านักฟุตบอลคนเก่ง (แต่ขี้เกียจ) ของพ่อแม่ได้ ด้วยการมอบหมายหน้าที่ให้กับอาจารย์ผู้สอน หรือโค้ชของเขา ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ผันตัวเองมาเป็นที่ปรึกษาเวลาที่เขาเดินหน้ามุ่ยมาหา เป็นพ่อครัวแม่ครัวเวลาที่เขาร้องหิวข้าวหลังซ้อมเสร็จ และเป็นคุณพ่อคุณแม่พาเขาเดินกลับเข้าบ้านด้วยกันหลังฝึกซ้อมเสร็จ ...
ขอให้ความรัก ความอบอุ่นเกิดขึ้นกับทุกครอบครัวและเด็กๆ ทุกคนในช่วงปีใหม่นี้นะครับ
ติดต่อหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่
อาจารย์ พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล
อีเมล์ pitak_immanuel@yahoo.com