ป้ายโฆษณา



ป้ายโฆษณา

ก่อนซื้อโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์มือสอง ตรวจ S/N ที่แจ้งหาย/ถูกขโมยที่นี่!! BlockSerial.Com



Momoji ชุดนอน เด็ก ลิขสิทธิ์ Disney ดิสนีย์ ลาย Mickey MouseMomoji ชุดนอน เด็ก ลิขสิทธิ์ Disney ดิสนีย์ ลาย Mickey Mouse คลิ๊กที่นี่!


เด็กกับเบาะรถยนต์นิรภัย

พิมพ์อีเมล

( 1 Vote )
ด็กกับเบาะรถยนต์นิรภัย

เป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องปกป้องลูกรักให้มีความปลอดภัยใน ขณะที่เดินทางโดยรถยนต์ แต่ผลการศึกษาของ Partners for Child Passenger Safety Study ในสหรัฐกลับพบว่า เด็กๆ ยังคงมีความ เสี่ยงที่จะเป็นอันตรายในขณะเดินทางในรถยนต์ เพราะพ่อแม่มัก จะให้ลูกเล็กๆนั่ง Booster (ที่รองนั่งเสริมสำหรับเด็กอายุ 4 ขวบใน รถยนต์) และให้คาดเข็มขัดนิรภัยของผู้ใหญ่เร็วเกินไป แทนที่จะ ให้นั่ง Car Seat สำหรับเด็กเล็ก

โดยมีรายงานจากอุบัติเหตุรถชน 30,000 ราย มีเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก Dr. Flaura Koplin Winston หัวหน้าหน่วย การศึกษานี้ระบุว่า มีเด็กอายุ 3 ขวบจำนวนมากที่ถูกพ่อแม่เปลี่ยน ให้มานั่ง Booster แทนที่จะนั่ง Car Seat ทั้งนี้เด็กอายุ 3 ขวบควร นั่ง Car Seat ซึ่งหันหน้าออกจนกว่าจะมีน้ำหนัก 40 ปอนด์ และ มีอายุ 4 ขวบเต็ม เมื่อเด็กมีน้ำหนักถึงจำนวนที่กำหนดจึงจะ เปลี่ยนมานั่ง Booster ได้ และควรนั่งที่ Booster จนกว่าจะสูง 4 ฟุต 9 นิ้ว (142.5 ซม.)เป็นอย่างน้อยและหนัก 80 ปอนด์ และยังปรากฏว่ามีเด็ก อายุ 4-8 ขวบถึง 83% และ เด็ก 3 ขวบ 16% ที่นั่งเบาะรถยนต์และคาด เข็มขัดนิรภัยโดยไม่นั่งในCar Seat หรือ Booster นับว่าเป็นการ เสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง

สาเหตุคือ ขาของเด็กเหล่านี้ยังสั้นอยู่ เมื่อนั่งเบาะรถยนต์โดยไม่มี Booster ที่รองนั่ง เด็กจะพยายามดันตัวให้ติดกับที่พิงหลังเพื่อนั่ง ให้สบาย ซึ่งเป็นการทำให้สายคาดของเข็มขัดนิรภัยมาคาด อยู่เหนือหน้าท้อง เป็นการเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของตับ, ม้าม และไขสันหลัง หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์

นอกจากนั้น อุบัติเหตุทางรถยนต์สามารถทำให้เด็กได้รับ บาดเจ็บอย่างมาก โดยก่อให้เกิดอาการบาดแผลฉีกขาด อย่างรุนแรง, การกระทบกระเทือนอย่างแรง และอวัยวะ ภายในเสียหาย โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ศีรษะของเด็ก ซึ่งบาดแผลที่ศีรษะและการกระทบกระเทือนทางสมองนั้น ในเด็กจะใช้เวลานานกว่าจะหายได้ ไม่เหมือนอวัยวะส่วน อื่นของร่างกายที่หายง่ายกว่า ดังนั้น เด็กๆ ควรนั่งเบาะ รถยนต์นิรภัยในแต่ละระดับตามความเหมาะสมของอายุ เด็กแต่ละคน จึงจะเป็นการช่วยให้เด็กมีความปลอดภัย ในการเดินทาง และหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บดังกล่าว