เคยได้ยินข่าวอยู่บ่อยๆเวลาที่วัยรุ่นทะเลาะกันแล้วมีการใช้กำลังรุนแรง.  สุดท้ายคนที่ได้รับบาดเจ็บก็กลายเป็นคนที่ไม่รู้อีโน่นอีเน่ด้วย แบบที่เค้าเรียกว่าโดนลูกหลง นึกว่าจะมีแต่พวกเด็กวัยรุ่นใจร้อน แต่ไหงคราวนี้มาเจอกับยูริจังๆเลย.       เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อช่วงอาทิตย์ที่แล้วไปรับลูกสาวตอนเลิกเรียนเจอคุณครูประจำชั้น คุณครูรีบบอกก่อนส่งยูริขึ้นรถว่า. วันนี้ยูริโดนเพื่อนผู้หญิงในห้องชกตา คิ้วบวมแดงเลยแต่คุณครูประคบผ้าเย็นให้แล้ว  คุณแม่เลยถามว่า ตายจริงเกิดอะไรขึ้น นึกในใจลูกสาวอิชั้นออกจะเรียบร้อยอ่อนหวาน จะไปชกไปมีเรื่องกับคนอื่นได้ไงเนี่ย.  คุณครูบอกว่าเพื่อนในห้องเค้าทะเลาะกัน. ส่วนน้องยูริไปยืนอยู่ใกล้ๆด้านหลังเลยโดนหมัดของเพื่อนชกเข้าเต็มๆ
นั่งรถกลับมาที่บ้านระหว่างทางเลยอดสงสัยไม่ได้ว่า เกิดอะไรขึ้นจ๊ะลูกจ๋า
ยูริบอกว่า. หนูไม่ได้ไปมีเรื่องอะไร เห็นน้องก.(เพื่อนสนิท). ทะเลาะกับน้อง ก.(เพื่อนที่ค่อนข้างสนิท). เมื่อเป็นเพื่อนที่รักด้วยกันทั้งสองคนก็ไม่อยากให้มีเรื่องทะเลาะกัน หนูคิดว่าเค้าคงจะมีเรื่องอะไรที่เข้าใจผิดกันเลยจะเข้าไปบอกว่าให้พูดกันดีๆอย่าเข้าใจผิดกัน ให้ค่อยๆคุยกันนะแต่ สงสัยความพยายามของยูริจะไม่เป็นผลสำเร็จน้องก.(ที่ค่อนข้างสนิท)เค้าค่อนข้างแข็งแรงแบบผู้ชายๆ เลยจะชกน้องก.อีกคน แต่ว่าน้องก.  เค้ารู้ตัวหลบหมัดทัน หมัดสอยดาวนั่นเลยโดนเข้าเต็มๆ ที่ตาข้างขวาของยูริเลย. ถามยูริว่าเพื่อนขอโทษไหม ยูริบอกว่าเพื่อนไม่ขอโทษ แล้วกลับบอกว่าทำไมไม่หลบเองช่วยไม่ได้ จากนั้นก็วิ่งหนีหายแยกย้ายกันไป  ยูริบอกหนูเจ็บจนน้ำตาจะไหลเลย.    โธ่เอ๋ย. เวรกรรมของคนอยากไกล่เกลี่ย คราวนี้ได้บทเรียนใหม่ ถ้าจะเข้าไปช่วยเค้าต้องระวังตัวเราเองให้ดี หรือทางที่ดีรีบตามคุณครูมาจัดการเองจะดีกว่า  ไม่ต้องเข้าไปยุ่งด้วยแล้ว โชคดีที่กระดูกเบ้าตาไม่เป็นอะไรมีแค่ตาช้ำนิดหน่อยแดงๆ  ทนเจ็บตาอยู่หลายวันกว่าจะดีขึ้นหายบวม   ส่วนน้อง ก.  จอมพลัง ก็มิกล้ามองหน้าคุณแม่อีกเลย วิ่งหลบหน้าไปไม่มาทักเหมือนแต่ก่อน  แต่ยูริก็บอกว่าให้อภัยเพราะยังไงก็เป็นเพื่อนกัน เฮ้อ. เรื่องของเด็กๆนะเนอะ. ขนาดเด็กๆก็มีทะเลาะกัน. โชคดีที่ลูกสาวดิฉันไม่เคยไปทะเลาะกับใคร แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องโดนลูกหลงเนี่ยนะซิค่ะมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ. ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผูใหญ่ก็ตามที